ไล่ล่า!สองหนุ่มจีน อวน-ผอม อุ้มสาวร่วมชาติ จับแก้ผ้ารีดเงิน ก่อนใช้พาสปอร์ตปลอมหนีออกนอกประเทศ


23 เม.ย. 2566, 09:57

ไล่ล่า!สองหนุ่มจีน อวน-ผอม อุ้มสาวร่วมชาติ จับแก้ผ้ารีดเงิน ก่อนใช้พาสปอร์ตปลอมหนีออกนอกประเทศ




วันที่ 23 เมษายน 2566 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยเหตุ แก๊งชาวจีนอุ้มหญิงจีนวัย 25 ปี ก่อนหลบหนีไปนอกประเทศในพื้นที่ห้วยขวาง โดยระบุว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่  17  เม.ย. ต่อเนื่อง 18 เม.ย. บริเวณคอนโดมิเนียมชั้น 35 ย่านพระราม 9 โดยผู้เสียหายถูกแก๊งคนจีนทำร้ายร่างกายและถอดเสื้อผ้ามัดไว้กับเก้าอี้ ก่อนบังคับให้โอนเงิน  427,500 บาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี  เบื้องต้นจากการตรวจสอบร่างกาย มีบาดแผลจากการถูกพันธนาการ และรอยตบบริเวณใบหน้า แต่ไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ 

โดยคนร้ายมี 2 ราย คือ นายตัง ซิ เหว่ย หรือนายจาง จี้ หมิง รูปร่างผอม ที่หลบหนีด้วยการนั่งแท็กซี่ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนใช้พาสปอร์ตในชื่อตังซิเหว่ย โดยสารเครื่องบินออกนอกประเทศ ปลายทางคือกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ส่วนคนร้ายอีกราย คือ นายซู เหว่ย รูปร่างค่อนข้างอ้วน หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์กลับไปบ้านพักย่านสุทธิสาร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีชาวจีนพักอาศัยอยู่อีก 7 คน จากการตรวจสอบไม่พบความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เป็นเพียงนักท่องเที่ยวทั่วไป

สำหรับนายตังซิเหว่ย ตรวจสอบพบว่า  มีประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยตั้งแต่ปี 2016 จำนวน 3 ครั้ง ส่วนนายซูเหว่ย มีประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยแล้ว 12 ครั้งตั้งแต่ปี 2017  ทุกครั้งเดินทางเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ จากการสอบสวนเชื่อว่าคนร้ายทั้งสองรายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประเทศจีน และมีการวางแผนเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย  โดยมีการเช่าห้องตั้งแต่วันที่ 16-19 เมษายน ก่อนสุ่มเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวชาวจีน  และทำทีตีสนิทเหยื่อตั้งแต่วันที่ 13 และชักชวนมาที่ห้องในวันที่ 17 ลงมือก่อเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ และข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการโดยใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญและได้ประสานกองการต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามตัวต่อไปแล้ว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบที่มาของพาสปอร์ตทั้งสองเล่มของนายตังซิเหว่ย ว่ามาจากประเทศไทยหรือจีนด้วย

พลตำรวจตรีนพศิลป์ ยอมรับว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามีการก่อเหตุระหว่างชาวจีนเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กฎหมายไทยมีความเข้มแข็ง เพราะการที่คนต่างชาติเข้ามาก่อเหตุในไทยเนื่องจากไม่พบหมายจับตำรวจสากล จึงทำให้ไม่สามารถตรวจสอบประวัติการก่ออาชญากรรมของชาวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยได้  อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม จึงเป็นช่องโหว่ที่คนร้ายใช้เข้ามาการก่อเหตุในประเทศไทย





คำที่เกี่ยวข้อง : #แก๊งจีนอุ้มรีด  









©2018 CK News. All rights reserved.