วันที่ 21 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สน.มักกะสัน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร รอง ผบก.น.1 เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยมีคณะทำงานชุดสืบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิต ของน.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ อายุ 20 ปี เน็ตไอดอลสาวที่ถูก นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรืออิคคิว อายุ 19 ปี แฟนหนุ่มประธานรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปี 2 ลูกชาย พล.อ.สมชาย ชัยวณิชยา อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกแม็กกาซีนยิงเสียชีวิต รวม 2 ศพ บนห้องพักชั้น 14 ของคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ย่านอโศก กทม. เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ให้ข้อมูลว่า เป็นปืนของพ่ออิคคิว

พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ขณะนี้ตั้งคณะทำงานชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ที่กองพิสูจน์หลักฐาน โรงพยาบาลรามา และส่วนชุดสืบสวนไปเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม ที่สถานที่เกิดเหตุ แล้วกลับมารายงาน เบื้องต้นตรวจพบคราบเขม่าดินปืนที่มือของนายภูมิพัฒน์ หรืออิคคิว ที่ตรวจพบจากศพ ส่วนพ่อผู้ก่อเหตุ นายทหารยศพลเอกที่มีชื่อเป็นเจ้าของอาวุธปืน ก็จำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบเพื่อหาข้อมูลสำคัญ ซึ่งติดต่อไปแล้ว แต่ทางนายพลคนดังกล่าว แจ้งว่าจะขอจัดงานศพของลูกให้เสร็จก่อน ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกันกับพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องรอเรียกมาสอบปากคำ และดูจากคำให้การ

ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนทางสังคม ต้องเรียนว่า ตามป.วิอาญาม. 150 เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ พนักงานสอบสวนทำจนครบถ้วน โดยตั้งแต่รับแจ้งเหตุก็สั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจปิดกั้น พื้นที่บริเวณชั้น 14 ของคอนโด ซึ่งเมื่อออกจากลิฟต์มาจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง ทุกคนที่จะเข้าออก รวมถึงพบว่ามีเพียงผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คน ที่เดินทาง เข้ามาจึงปิดกั้นพื้นที่ใช้เวลา 20 นาที

ซึ่งตามขั้นตอนคนที่จะเข้าที่เกิดเหตุได้คนแรกคือเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จำนวน 5 คน ชุดที่ 2 ที่เข้าไปจะเป็นแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี 3 คน โดยเข้าไปพร้อมกับพนักงานสอบสวน และตนซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน จากนั้นจึงชันสูตรพลิกศพ ก็ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ช่วยแพทย์ เข้าไปหอร่าง และจึงตามให้ญาติพ่อหรือแม่เข้ามาดูศพเป็นชุดสุดท้าย ก่อนจะเคลื่อนร่างออกจากจุดเกิดเหตุ

ส่วนพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุน 1 หัว ซึ่งยังหาอีกหนึ่งนัดไม่เจอ ปรากฎว่าล่าสุดได้รับรายงานจากแพทย์ว่าพบฝังอยู่ที่ศีรษะของนายภูมิพัฒน์ รวมถึงคราบเขม่าดินปืนที่มือของนายภูมิพัฒน์หรืออิคคิว ฝ่ายเดียว เบื้องต้นจึงนำหัวกระสุนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ

ส่วนกรณีที่นายภูมิพัฒน์ขึ้นไปบนคอนโดนั้น มีพยานหลักฐานหลายส่วน และตรวจสอบทั้งการเข้าออกของคีย์การ์ด และกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลการสืบสวน ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงตี 4 ของวันที่ 18 เม.ย. จนถึงบ่ายโมงครึ่ง วันที่ 19 เม.ย. ยังไม่มีใครผ่านเข้ามากล้องวงจรปิด ส่วนคนที่พบศพเป็นคนแรก เป็นเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งนี้ และมีรหัสเปิด