วันที่ 19 เมษายน 2566 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.เกศกัญญา อายุ 44 ปี บริเวณหน้าบ้านพัก ในพื้นที่ ม. 10 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากช่วงปี 2551 สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยได้ให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปรามปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าเอกอัครราชทูตฯ ได้ถูกคนร้ายปลอมแปลงบัตรเครดิตและนำมาใช้ในประเทศไทย มียอดความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 10 ล้านบาท
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายได้กระทำความผิดร่วมกันเป็นขบวนการ ติดต่อซื้อข้อมูลบัตรเครดิตจากชาวมาเลเซีย จากนั้นจึงได้ทำการทำสำเนาข้อมูลลงบัตรเครดิตปลอมก่อนแจกจ่ายกันไปใช้ตระเวนชำระค่าน้ำมัน เพื่อนำน้ำมันไปขายต่อให้กับปั๊มน้ำมันเถื่อนอีกต่อหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับคนร้ายทั้งขบวนการจำนวน 7 ราย และได้ทำการจับกุม ผู้ร่วมขบวนการไปแล้วจำนวน 6 ราย พร้อมยึดของกลางได้จำนวนหลายรายการ แต่ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่
กระทั่งวันที่ 18 เมษายน 2566 เจ้าหน้าตำรวจ บก.ปอศ. สืบสวนพบว่า น.ส.เกศกัญญาฯ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ผู้ต้องหาตามหมายจับพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจนกระทั่งสามารถจับกุมตัว น.ส.เกศกัญญาฯ ได้ที่หมู่บ้านดังกล่าว ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ในช่วงเกิดเหตุ ตนได้ร่วมเดินทางนั่งรถยนต์ไปกับผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ทำการตระเวนรูดซื้อน้ำมัน และสินค้าหลายรายการในพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่อมาทราบว่ามีหมายจับจึงได้หลบหนีเปลี่ยนที่อยู่เรื่อยมาเป็นเวลา 14 ปี จนกระทั่งมาถูกจับกุม
©2018 CK News. All rights reserved.