เวลา 23.30 น. วันที่ 29 มีนาคม 2566 ตำรวจสน.บางเขน นำกำลังเข้า ร่วมจับกุม นายชวลิต จิตพินิจ อายุ 37 ปี ,นายโยธิน ต่างศรี อายุ 24 ปี พร้อมของกลางเป็นสายเคเบิ้ลขนาด 200 คู่ 0.4 AP จำนวน 2 เส้น ยาว 7 เมตร และ 18 เมตร , สายเคเบิ้ลขนาด 300 คู่ 0.4 AP จำนวน 4 เส้น ยาว 12 เมตร , 14 เมตร , 22 เมตร และ 24 เมตร , สายเคเบิ้ลขนาด 400 คู่ 0.4 AP จำนวน 1 เส้น ยาว 17 เมตร พร้อมรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน บพ 991 สระแก้ว , คีมตัดสายไฟ และ บันไดไม้ไผ่ 2 อัน

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้รับแจ้งว่า สัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่มีความเสถียร ใช้งานไม่ได้บ่อยครั้ง และคาดว่าสาเหตุมาจากคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิ้ลออกไป จึงได้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้เบาะแสว่า มีบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน แอบลักลอบตัดสายเคเบิ้ล ภายในรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริเวณตรงข้ามธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ม.เกษตรฯ กรุงเทพฯ

ต่อมา นายไพบูลย์ แสนสอาด ผู้จัดการศูนย์ติดตั้งและตรวจแก้ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ พร้อมตำรวจ สน.บางเขน ได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นายโยธิน กำลังปีนบันไดและตัดสายเคเบิ้ลอยู่ ใกล้กันพบนายชวลิต นั่งอยู่ในรถกระบะ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว ก่อนตรวจสอบที่ท้ายรถกระบะพบสายเคเบิ้ลขนาดใหญ่จำนวนหลายเส้นม้วนวางอยู่ภายใน ทั้งนี้ขณะเข้าตรวจสอบ ผู้ก่อเหตุระบุกับทาง นายไพบูลย์ว่า เป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่ง เข้ามาเก็บสายเคเบิ้ล และ เมื่อตรวจสอบก็พบว่าบริษัทแห่งนี้ไม่มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับสายเคเบิ้ลแต่อย่างใด อีกทั้งของกลางที่พบ เป็นสายเคเบิ้ลของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จึงได้จับกุมตัวมาที่ สน.บางเขนเพื่อดำเนินคดี

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ในพื้นที่ ทุ่งสองห้อง และ บางเขน แต่ในครั้งนี้ก่อเหตุตัดสายเคเบิ้ลเยอะกว่าที่ผ่านมา ก่อนจะถูกจับกุมได้ในที่สุด ตำรวจจึงแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ โดยใช้ยานพาหนะฯ" ก่อนคุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป