เมื่อวาน(18 มีนาคม 2566) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า มีผู้ลักลอบนำไม้พะยูงตัดเป็นท่อนจำนวนมากมากองทิ้งไว้รอการขนย้ายอยู่ภายในบริเวณสวนยางพารา บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือบ้านอาวอก หมู่ 7 ต.ขอนแตก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.สังขะ,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชปส. ร้อย ตชด. 214 เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขะ เดินทางเข้าตรวจสอบไม้พะยูง ในพื้นที่ดังกล่าว สถานที่บันทึกหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ตำบลบ้านชบ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ถึงบริเวณที่ได้รับแจ้ง ได้ร่วมกันตรวจสอบทีบริเวณหน้ากระท่อม พบไม้พะยูงท่อนวางอยู่ จำนวน 17 ท่อน ตรวจสอบเป็นไม้พะยูง ลักษณะใหม่ ร่องรอยถูกกตัดโดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ และเลื่อยมือตรวจที่หน้าตัดของไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ประทับไว้แต่อย่างใด จากนั้นได้ประสานงานกับนายอนุวัฒน์ ประทุมมา กำนันตำบลณรงค์ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ และนางสำลี แต้มทอง ผู้ใหญ่บ้านอาวอก หมู่ที่ 7 ตำบลขอนแตก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สอบถามนายอนุวัฒน์ฯ และนางสำลีฯ ทราบว่า พื้นที่สวนยางพาราที่เกิดเหตุเป็นของนางสุม แก้วละมุน อยู่บ้านเลขที่ 92/1 บ้านหนองเทพ หมู่ที่ 9 ตำบลณรงค์ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ แต่พื้นที่สวนยางพาราตั้งอยู่ในเขตปกครองของบ้านอาวอก หมู่ที่ 7 ตำบลอาวอก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ คณะเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อเจ้าของสวนยางพารา
โดยมีนางสาวอภิญญา มานิตย์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 6 บ้านรัฐราษฎร์พัฒนา ตำบลณรงค์ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ มาแสดงตัวว่าเป็นลูกสะใภ้ของนางสุม แก้วละมุน และเป็นผู้ดูแลสวนยางพารา ดังกล่าว สอบถามถึงไม้พะยูงที่กองอยู่บริเวณหน้ากระท่อมภายในสวนยางพารา นางสาวอภิญญาฯ ให้การว่าไม่ทราบว่าผู้ใดนำมาเก็บไว้ ซึ่งตนไม่ได้เข้ามาที่สวนยางพาราทุกวัน คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบตอไม้พะยูงในบริเวณใกล้เคียงแต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าไม้พะยูง จำนวน 17 ท่อน ที่ตรวจพบไม่สามารถตรวจสอบที่มาของไม้ได้ ประกอบกับไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ลำดับที่ 161 และเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไม้พะยูง จำนวน 17 ท่อน ปริมาตร 1.69 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวง 135.20 บาทมูลค่าความเสียหาย 422.500 บาท ไว้เป็นของกลางในการกระทำผิด ได้มอบเหตุการณที่เกิดขึ้นให้ นายเสริม ทองจันทร์ พนักงานพิทักษ์ ส3 เป็นผู้นำเรื่องราวเข้าร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์และได้ใช้ดวงตรา ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน ส่วนไม้ของกลางการกระทำผิดได้ขออนุญาตพนักงานสอบสวน สภ.สังขะ เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่นำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ตำบลบ้านชบ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ตามระเบียบต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.