วันที่ 26 ก.พ.66 เวลา 13.00 น. ที่ วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพฯ ม.ล.ภัทรสุดา กิตติยากร (คุณวงเวียน) ลูกสาว ท่าน ม.ร.ว.สมลาภ กิตติยากร เลขานุการในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้ร่วมกับ ผอ. ฟ้า ” พรทิพา สุพัฒนุกูล ” เจ้าของสถานีทีวีดาวเทียมจานดำช่อง 160 สายบุญ ได้เดินทางมาถวายพระสมเด็จบางขุนพรหม จำนวน 3,000 องค์ , เงินสดจำนวน 100,000 บาท , จอทีวีสี 8 K ใหญ่ 55 นิ้วจำนวน 1 เครื่อง , เครื่อง ส่องดูมวลสารพระ 1 ชุด, ขาตั้งขาทีวีสั่งทำพิเศษวางทีวี 1 ชุด ร่วมมอบถวายให้ พระเดชพระคุณ พระโสภณธรรมวงศ์ ท่านเจ้าคุณน้อย วัดอินทรวิหร พระอารามหลวง บางขุนพรหม พระนคร กทมอินทรวิหาร แขวง.บางขุนพรหม เขต.พระนคร กทม.

ภายหลังพิธีรับสมเด็จ แล้ว “ผอ.ฟ้า”พร้อมทีมงานและพระโสภณธรรมวงศ์ เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร ได้ร่วมกันนำพระสมเด็จบางขุนพรหมทั้งหมด 3,000 องค์ ที่อยู่ในหีบเหล็กเดินรอบพระอุโบสถ ภายในวัดอินทรวิหาร จำนวน 9 รอบเพื่อเป็นศิริมงคลในการมอบพระสมเด็จในครั้งนี้ 

ผอ.ฟ้า ” พรทิพา สุพัฒนุกูล ” เจ้าของสถานีทีวีดาวเทียมจานดำสายบุญ กล่าวว่า จริงๆแล้วตอนแรกไม่ได้คิดถึงขั้นจะนำพระมาถวายที่วัดอินทร์ บางขุนพรหม บังเอิญนั่งสมาธิ นั่งสวดมนต์ แล้วก็ทุกวันเราจะอธิฐานว่า ถ้าองค์สมเด็จปู่ต้องการให้ข้าพเจ้าทำการสิ่งใดก็ขอให้ดลใจให้ข้าพระเจ้ากระทำการสิ่งนั้น อธิฐานแบบนี้ทุกวันแล้ววันนึ่งนั่งสมาธิแล้วตัวเองเผลอหลับ เหมือนนั่งสมาธิแล้วหลับ เขาเรียกว่านิมิตรขึ้นมาแวบนึ่งเห็นวัดอินทร์ บางขุนพรหม และเคยพูดขึ้นมาครั้งหนึ่งว่าเห็นเจดีย์ของวัดอินทร์ บางขุนพรหม แต่ว่าสมเด็จบางขุนพรหมที่บ้านที่เรามีไว้ใก้ลจะหมดแล้ว จะมาถวายได้อีกกี่องค์ คิดว่าที่บ้านยังมีหีบที่ปิดล็อกก็ไม่รู้ว่าข้างในนั้นเป็นอะไร พอเปิดขึ้นมาหีบแรกเจอสมเด็จบางขุนพรหม คิดในหัวเราอีกว่าอุ้ยทำไมเราคิดแล้วก็ภาพนิมิตรขึ้นมา แล้วทำให้เรามาเปิดเจอท่าน 1 หีบ ที่ในใจเราไม่เคยคิดว่าจะได้ ก็เลยต้องนำมาถวาย เพราะว่าเป็นสิ่งที่เชื่อได้ว่าองค์สมเด็จท่านต้องการให้นำพระมาคืนวัด เพื่อที่จะบูรณะวัดหรือ เอาพระมาไว้ที่นี้ ก็เท่ากับว่าให้ลูกหลานคนไทยที่มีความศัทธาต่อสมเด็จบางขุนพรหมและสามารถตรวจเช็คได้ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถเช็คได้ 

โดยการที่พระมาอยู่ตรงนี้ทุกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และพระท่านไปอยู่ที่ ผอ.ฟ้า ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผอ.เชื่อเรื่องสิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างพระมาอยู่กับ ผอ.ฟ้า อย่างที่ทุกคนเห็นว่า พระสามารถไปอยู่ในมือคนไทยได้ โดยไม่ต้องใช้เงินก็ได้ พระแท้ไม่ต้องใช้เงินสักบาทเดียวก็เกิดบารมีได้ ปีที่เปิดกรุพระคือปี 2500 คือกรุใหม่ของวัดบางขุนพรหม แต่คำว่ากรุใหม่ไม่ได้แปลว่าพระสร้างใหม่ สร้างและพระจมใต้เจดีย์ไปเป็น100 กว่าปี ซึ่งมาเปิดกรุเอาปี 2500 ซึ่งตราปั้มเป็นเอกลักษณ์ก็คือตราปั้มสีม่วง ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ของเขา แล้วก็เนื้อหาของพระความยุบแยกย้นการแตกขององค์พระ กับการสึกหลอของที่จมอยู่ใต้น้ำ แล้วก็สิ่งสำคัญคราบกรุ คราบเศษไม้หรือเศษดินของที่นี้ ก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี้ แล้วก็สามารถเช็คได้ว่าใช่หรือไม่ใช่ 

ส่วนใครที่คิดว่าไม่ใช่ก็คือคนที่พูดอย่างนี้ 1.เขาบาป แต่ ผอ.คิดว่าคนที่พูดว่าไม่ใช่ต้องไม่รู้จริง ถ้าบอกว่าไม่ใช้ปุ๊บเราก็ต้องไปแจ้งความ เพราะว่าเหล่านี้มันจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับคนที่เขาไม่ใช่แค่ตัว ผอ. ถ้าคนเราบางทีเขาทำความดีแล้วคนที่มีมาร เข้ามาก็มีเยอะมิฉะนั้นถ้าเราตั้งใจจะทำดีจงเดินหน้าทำอย่างที่ ผอ.บอก

ด้านพระเดชพระคุณ พระโสภณธรรมวงศ์ ท่านเจ้าคุณน้อย เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง บางขุนพรหม พระนคร กทม. กล่าวว่า ถ้าหากใครมาร่วมทำบุญ เดี๋ยวก็ค่อยมอบให้ได้เพราะว่า ทำตามสมเด็จท่านทำไว้แจก ใครร่วมบุญเราก็แจกไป อย่างที่อาตมาได้สนทนาไปว่าความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพุทธเจ้าจารย์โต ว่าเกี่ยวข้องกับวัด อินทรวิหาร แล้วก็มีความเกี่ยวข้องความผูกพันธิ์ที่ยั่งยืนอย่างไรนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด 

ไม่ว่าสมเด็จพุทธจารย์โต ท่านจะอยู่ ณ ที่ไหน มีความผูกผันที่ไหนมากที่สุดแต่ถ้าหากเรานั้นเข้าถึงท่านแล้ว ท่านนั้นเป็นผู้มีคุณวิเศษ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่บ้าน อยู่ที่หนแห่ง ตำบลใด เมือนึกถึงท่าน ทำกุศลคุณความดี ตามท่านได้สั่งสอนเชื่อว่า สมเด็จพุทธจารย์โต ก็โปรดประทานพรทุกท่านทุกคนทุกที่ทุกเวลา ไม่เฉพาะเจาะจง ณ วัดอินทร ไม่เฉพาะเจาะจง ณ วัดระฆัง ไม่เฉพาะเจาะจง แต่ขอทุกท่านปฏิบัติตาม สมเด็จพระพุทธจารย์โต ที่ท่านสอนไว้แบ้วคุณวิเศษและความศักดิ์สิทธิ์นั้นจะบังเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลายอย่างแน่นอน