ที่จังหวัดอุทัยธานี ที่บริเวณสนามหน้าเทศบาลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน บุญเดือนสามสืบสานประเพณีวิถีชาวอู่ไท ประจำปี 2566 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับจังหวัดอุทัยธานี ส่วนราชการ สภาวัฒนธรรม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 8 อำเภอ ได้ดำเนินการจัดงานโดยมีการสืบสานการจัดงานประเพณีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 123 เพื่อจรรโลงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอุทัยธานี ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย การจัดงานในครั้งนี้มุ่งเน้นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม อาทิเช่น การอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่สื่อให้เห็นถึงจารีตประเพณีที่งดงามของชาวจังหวัดอุทัยธานี ไม่ว่าจะเป็นการประกวดขบวนแห่วัฒนธรรมประเพณีและวิถีวัฒนธรรม การประกวดสำรับคาวหวาน  ประเพณีดั้งเดิมของชาวจังหวัดอู่ไท การประกวดรถอุปสมบทนาคหมู่ เป็นต้น

การจัดงานประเพณีบุญเดือนสามสืบสานประเพณีวิถีชาวอู่ไท ประจำปี 2566 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. จัดอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 2. เพื่อเป็นการสืบสานวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น สู่ชนรุ่นหลัง  เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วม ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในครอบครัวและส่งต่อสู่ชุมชนต่อไป 3. ส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนา และเป็นการศึกษาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง 4. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนวิถีในการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นการลดละสิ่งที่เป็นอบายมุข โดยนำหลักธรรมคำสอนมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน 5. เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียง และสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดอุทัยธานี ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ส่วนสีสันตั้งแต่ช่วงเช้ามีการประกวดขบวนแห่นาค และขบวนสำรับคาวหวาน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 8 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 17 ขบวน ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักไปด้วยประชาชน พุทธศาสนิก นักท่องเที่ยว ทั้งในและต่างจังหวัด เข้าปักหลักรอชมขบวนการประกวดดังกล่าวตลอด 2 ข้างทาง รวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยทั้ง 17 ขบวนที่เป็นตัวแทนของแต่ละอำเภอทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดอุทัยธานี ได้จัดขบวนอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งขบวนรถพุทธประวัติ ขบวนแห่นาค ขบวนรำหน้านาค ขบวนสำรับคาวหวาน แต่ละแห่งจัดขบวนการอย่างยิ่งใหญ่เรียกว่าสู่กันอย่างยิบตาไม่มีใครย้อมแพ้กัน และในระหว่างทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน ก็จะมีประชาชน พุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันอนุโมทนาบุญกับนาคหมู่ซึ่งนั่งอบยู่บนขบวนรถพุทธประวัติ  ซึ่งขบวนทั้ง 17 ขบวนดังกล่าวยังเป็นการประกวดชิงเงินรางวัลรวมรางวัลเกือบ 4 แสน บาทอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการประกวดรำหน้าหน้านาคเมื่อมาถึงจุดที่เป็นที่มีกรรมการตัดสินโดยให้แต่ละขบวนรำโชว์แห่ง 8 นาที เพื่อให้กรรมการให้คะแนนโดนทีที่ชนะเลิศจะมีเงินจำนวน 5 หมื่น บาทเป็นเงินรางวัล แต่ละทีมโชว์กันสุดความสามารถ ท่ามกลาง ประชาชน และนักท่องเที่ยวมาร่วมชมกันอย่างล้นหลาม ส่วนนักท่องเที่ยวบางคนถึงกับอดใจไม่ไหวออกสเตปเต้านรำไปด้วย ส่วนนางรำที่อยู่ในชุดแรกๆซึ่งจบขบวนแห่งแล้ว แต่ขบวนยังไม่สิ้นสุดเดินกลับแต่เพลงขบวนแต่ละขบวนยังสุดมันส์ก็ยังอดใจไม่ไหวถึงกับถอดรองเท้ารำเต้นกันอย่างสนุกสนาน และส่วนท้ายๆขบวนซึ่งยังต้องรออีกนานกว่าจะถึงจุดกรรมการตัดสินอากาศก็เริ่มร้อนต้องถึงกับนั่งพื้นถนนรอการเคลื่อนขบวน และที่ไม่ยอมแพ้กันเห็นจะเป็นขบวนรถแห่ประกอบเพลงที่แต่ละขบวนรถแห่ที่ถูกจ้างมาก็ไม่ยอมแพ้กันทั้งรูปแบบของรถแห่เครื่องเสียงจัดเต็มจัดใหญ่ไม่ยอมแพ้ใครว่าใครจะดังจะเล่นมันส์กว่ากัน บางคันดัดแปลงเครื่องเสียงจากรถกระบะดั้มกระบะตั้งขึ้นเป็นลำโพงเครื่องเสียงขนาดใหญ่ดังกระหึ่มกันอีกด้วย