จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันโพสต์ข้อความนั่งรถแท็กซี่กลับโรงแรม ระหว่างเที่ยวปีใหม่วันที่ 4 ม.ค.66 และถูกตำรวจตั้งด่านหน้าสถานทูตจีน เรียกตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า แล้วเรียกรับเงินสด 27,000 บาท แล้วปล่อยตัวไปไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 31 ม.ค.66 กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีคำสั่งที่ 26/2566 ลงวันที่ 26 ม.ค.66 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบปรากฏว่า มีมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้อง มีการตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไม่ดำเนินการตรวจยึด เพื่อตรวจสอบ หรือจับกุม ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ต่อมาวันที่ 30 ม.ค. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญาของสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นความผิด ตามประมวลอาญามาตรา 157 และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้มีคำสั่งลงวันที่ 30 ม.ค. เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้วนั้น
ดังนั้น เพื่อมิให้กระทบต่อการดำเนินการสอบสวนทางวินัยและคดีอาญา รวมถึงมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 68 92 และ 104 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ 2565 จึงให้ข้าราชการตำรวจที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 มอบหมาย
1.ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ ลางคุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม
2. ร.ต.อ.ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ
3.ด.ต.อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม
4. ด.ต.กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม
5.ส.ต.อ.เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม
6. ส.ต.อ.วัชรนนท์ ชาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม
7. ส.ต.อ.นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
©2018 CK News. All rights reserved.