วันที่ 4 มกราคม 2565เพจดัง “วันนี้ที่ปากน้ำโพ” ได้โพสต์ภาพบุคคลคนหนึ่งว่า เป็นบุคคลอันตรายโดยมีรายละเอียดว่า “ประกาศ!! บุคคลอันตรายอยู่ระหว่างหลบหนี ก่อเหตุฆ่าบุตรสาวตนเอง อายุ 3 ขวบ ในพื้นที่ บ้านไร่ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์

ผู้ก่อเหตุชื่อ นายรณชัย หรือเจมส์ อายุ 27 ปี อยู่ที่ ม.22 ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ใช้ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2267 นครสวรรค์ อยู่ระหว่างหลบหนี ขอให้ใช้ความระมัดระวังด้วย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้ามืด วันที่ 3 ม.ค. 65พ.ต.อ.วัฒนกิจ เฉลาประโคน ผกก.สภ.ลาดยาว ได้รับแจ้งเหตุจากสารวัตรเวรโรงพักว่า มีผู้พบศพเด็กน้อยวัย 3 ขวบ เสียชีวิตอยู่ภายในป่ามัน บริเวณหลังบ้านหลังหนึ่ง ใน ม.22 ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยลาดยาว

ที่เกิดเหตุ พบ นางอนงค์นาฎ ปานนท์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นย่าของเด็กน้อยวัย 3 ขวบ ได้พาเจ้าหน้าที่ ไปดูจุดที่พบศพนอนเสียชีวิต อยู่ภายในร่องป่ามันสำปะหลัง ห่างจากบริเวณหลังบ้านพักไปประมาณ 300 เมตร พบศพ ด.ญ.นรีนันท์ อายุ 3 ขวบ อยู่ในสภาพถูกดินยัดอุดปาก

จากการตรวจสอบสภาพร่างกาย ไม่พบว่า มีร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด ส่วนนางอนงค์นาฎ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า คนที่อุ้มหลานสาวนำมาทิ้งในไร่มัน คือ นายรณชัย หรือเจมส์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย และเป็นพ่อของเด็ก หลังเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีดำ สภาพใหม่เอี่ยม หลบหนีไป

นางอนงค์นาฎ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ดูแลหลานสาวให้ลูกชาย และทุกคืนตนก็จะนอนอยู่กับหลานสาว แทบไม่เคยจะห่างกายกัน แต่ปรากฏว่า ช่วงเวลาตี 4 ของวันนี้ นายรณชัยได้มาปลุกเรียกตน พร้อมกับบอกว่า ท่อประปาในห้องน้ำแตก ให้ตนลุกไปดู ซึ่งตนก็หลงเชื่อรีบลุกเดินไปดูตามที่บุตรชายบอก แต่กลับไม่พบว่า มีท่อประปาแตกแต่อย่างใด จึงเอะใจ รีบกลับไปที่ห้องนอน ก็พบว่า นายรณชัยอุ้มลูกสาววัย 3 ขวบวิ่งออกหลังบ้านไปที่ป่ามันสำปะหลัง

“ตอนนั้นฉันวิ่งตามไอ้ลูกชายตัวดี เพื่อไปช่วยหลานสาวแล้วนะ แต่ว่าช่วงนั้นมันยังมืดอยู่ ฉันก็วิ่งไปสะดุดล้ม จนต้องเปลี่ยนแผน ลุกขึ้นวิ่งไปตามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงให้มาช่วยตามหา ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน เพราะมันมืดมาก และกว่าจะตามหาเจอ ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อพบว่า หลานสาวสุดที่รักกลายเป็นศพ นอนอยู่ในร่องดินไร่มันสำปะหลัง” นางอนงค์นาฎ ระบุ

ทั้งนี้ หลังฟังปากคำของนางอนงค์นาฎ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบกระจายกำลัง ไล่ติดตามตัวนายรณชัยทันที โดยเบื้องต้น นายรณชัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีดำหลบหนีไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะไปได้ไกล เพราะรถจักรยานยนต์คนดังกล่าว มีน้ำมันรถเหลือแค่ครึ่งถัง และตัวนายรณชัยไม่มีเงินติดตัว