ระทึก!พลุไฟระเบิด งานลอยกระทง จ.นครพนม เจ็บกว่า 10 ราย เทศบาลพร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บ


9 พ.ย. 2565, 11:23

ระทึก!พลุไฟระเบิด งานลอยกระทง จ.นครพนม เจ็บกว่า 10 ราย เทศบาลพร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บ




เวลา 19.00 น. วันที่ 8 พ.ย. 2565 ที่บริเวณลานพนมนาคา ริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตเทศบาลเมืองนครพนม ขณะที่ นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครพนมกำลังประกอบพิธีเปิดงานวันลอยกระทง ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี อยู่นั้น ได้เกิดเหตุพลุไฟที่นำมาจุดเปิดงานได้ระเบิดขึ้น บริเวณหลังเวทีที่จัดประกวดนางนพมาศ แรงระเบิดทำให้ผู้จุดพลุไฟและผู้ช่วย ถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นไปไกลประมาณ 5 เมตร นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้บริเวณที่จุดพลุบริเวณหลังเวที ถูกสะเก็ดพลุไฟและแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย รวมผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 คน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ รีบรุดเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที พร้อมนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลนครพนมเพื่อทำการรักษาทันที

โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ และนำส่งโรงพยาบาลนครพนมเพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนบางรายที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อได้รับการปฐมพยาบาลแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนใหญ่ยังคงลงไปลอยกระทงในแม่น้ำโขงต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานลอยกระทงไม่ทราบว่าใครเป็นใครมาจุดไว้เพราะในรูปแบบการจัดงานไม่ให้มี แต่ว่าในการประชุมช่วงหนึ่งที่มีบางท่านได้เสนอขึ้นมาว่ามีคนจิตอาสาอยากให้งานสนุกสนาน ยิ่งใหญ่ จึงนำมาจุด อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขอแสดงความเสียใจสำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหายและบาดเจ็บ เบื้องต้นทราบว่ามีประมาณ 12 ราย แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง ทุกกรณี ทางเทศบาลเมืองนครพนม ยินดีดูแลรับผิดชอบอย่างเต็มที่พร้อมมีค่าทำขวัญชดเชยเยียวยา รวมถึงดูแลค่ารักษาพยาบาล

หลังเกิดเหตุ นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลนครพนม เพื่อเยี่ยมและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ มีญาติของผู้บาดเจ็บจำนวนมากไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจนแน่นบริเวณห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครพนม





คำที่เกี่ยวข้อง : #พลุระเบิด  









©2018 CK News. All rights reserved.