วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  มีการประกอบพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาแบบเขมรโบราณ ที่บ้านออด  หมู่ 11  ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์  โดยอาจารย์แทน เมียนเจย  หมอธรรมผู้สื่บทอดวิชาการสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาแบบเขมรโบราณ ซึ่งในปัจจุบันนี้หาไม่ค่อยมีแบบนี้มากนัก เนื่องจากเป็นสรรพวิชาคาถาคมที่เรียนได้ยาก ถึงมีก็ถือว่ามีน้อยมากในประเทศไทย   อาจารย์แทน เล่าให้ฟังว่า 

พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตามีมาแต่โบราณสืบทอดต่อกันมานานนับร้อยปี  พิธีกรรมดังกล่าวนี้ถือเป็นการนำความรู้ของคนโบราณมาสืบทอด เป็นการปลอบประโลมจิตใจ เพราะคนเราอยู่ได้ด้วยความหวัง วิธีการอันแยบยลของคนโบราณนี้ก็เพื่อให้ชีวิตสามารถดำเนินไปได้ หลังจากพบเรื่องร้ายๆ ซึ่งบางเรื่องแทบจะเอาชีวิตไม่รอด โดยโยนให้เป็นบาป เป็นเคราะห์กรรมไป

บางคนเจอเรื่องร้ายๆมา   บางคนค้าขายไม่ค่อยดี บางคนหน้าที่การงานไม่เจริญก้าวหน้าเจ้านายไม่รักไม่เมตตา และอีกสารพันปัญหาที่เจอมาไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่เมื่อประสบปัญหาดังกล่าวหลายคนก็หันหน้าเข้าวัดทำบุญให้ทาน และส่วนใหญ่ก็จะไปหาครูบาอาจารย์ให้ท่านช่วยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตา เพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อแก้อาถรรพ์ร้ายและเพื่อความสบายใจ ซึ่งเมื่อผ่านพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาแล้วส่วนใหญ่ชีวิตก็จะดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

ท่านใดที่กำลังประสบปัญหาเรื่องดวงตก ชะตาราศีไม่สง่างาม  โชคลาภไม่บังเกิด  ค้าขายไม่ค่อยดี  หน้าที่การงานไม่รุ่งเรือง  ความรักไม่ค่อยสมหวัง  พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ในจิตใจของท่านได้  สามารถติดต่ออาจารย์แทน ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 082-860-8102  ไสยศาสตร์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างที่ใครๆคิด  ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอถ้ารู้จักวิธีการใช้อย่างถูกต้อง

ในสมัยพุทธกาลก็มีการสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา และการพรมน้ำมนต์ด้วย เรื่องมีอยู่ใน “พระปริตร” ที่ชื่อว่า “รัตนสูตร” ความว่า ในสมัยหนึ่งเมืองไพศาลีเกิดข้าวยากหมากแพง ประชาชนหิวโหยล้มตายเป็นจำนวนมาก ต่อมาอมนุษย์ได้เข้าไปในพระนครเพราะกลิ่นซากศพ ยิ่งทำให้คนล้มตายหนักกว่าเดิม กรรมซัดด้วยเกิดโรคอหิวาตกโรคระบาดอีก พระราชาจึงได้ประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาความเดือดร้อน มีผู้เสนอว่า ให้ไปกราบทูลนิมนต์พระพุทธเจ้าจากกรุงราชคฤห์มาช่วย ครั้นพระพุทธองค์เสด็จไปถึงก็เกิดเหตุอัศจรรย์ ฝนตกอย่างหนัก เกิดน้ำพัดพาเอาซากศพไปจนหมดสิ้น ทำให้บ้านเมืองสะอาด

พระพุทธองค์มีบัญชาให้พระอานนท์และพระเถรานุเถระเดินไปในเมืองกับพระราชาและให้สวดพระปริตรพร้อมพรมน้ำมนต์ไปทั่วเมือง น้ำที่สาดขึ้นไปเบื้องบนได้ตกลงบนกระหม่อมของอมนุษย์ ต่างพาหันหนีไปหมด ส่วนผู้ป่วยก็หายจากโรคภัย แล้วลุกขึ้นแวดล้อมพระเถระเดินทางกลับสู่ท้องพระโรงที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ นับแต่นั้นมาเหตุการณ์ร้ายๆ ในเมืองไพศาลีก็จบลง

คำว่า “สะเดาะเคราะห์” มาจากคำว่า สุภคกรณํ หมายถึง การกระทำให้มีโชคดี หรือการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ทำให้เกิดเป็นความโชคดีกับชีวิตและสังคมขึ้นมาแทน การสะเดาะเคราะห์และต่อชะตาทำเมื่อ 1.เมื่อเจ็บป่วย ทำเพื่อให้หายจากอาการเจ็บป่วย 2.ครบรอบอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต 3.เกิดลางไม่ดี คิดว่าจะมีภัยจึงมาสะเดาะเคราะห์เพื่อให้คลาดแคล้วจากภัยต่างๆ 4.เมื่อต้องการชัยชนะ อาจจะเป็นการแข่งขัน การสอบ การทำธุรกิจ  และกิจกรรมต่างๆ เป็นการเสริมกำลังใจเพื่อจะได้เกิดผลดีต่อการทำกิจกรรมที่ตนเองกำลังทำอยู่