วันที่ 22 ตุลาคม 2565 จากกรณีที่มีข่าวจากหลายสำนัก ได้ให้ข้อมูลถึงการที่สวนสัตว์พาต้าตั้งราคาขายลิงกอริลลา ชื่อ “บัวน้อย” ดาวเด่นของสวนสัตว์ ใน ราคา 30 ล้านบาท ล่าสุด สวนสัตว์พาต้า ได้ออกคำแถลงการณ์ถึงข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมีใจความดังนี้
ผู้บริหารของห้างฯ พาต้าในชุดปัจจุบัน ได้เข้ามาบริหารงานตั้งแต่วันที่28 ส.ค. 2563 จนถึงวันนี้ทางผู้บริหารขอยืนยันว่า ไม่เคยเจรจาซื้อขายบัวน้อยกับผู้ใด และหน่วยงานใด ในทางกลับกัน ยังปฏิเสธการเคลื่อนย้ายบัวน้อย ตามที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เคยสอบถามและได้ตอบกลับไปอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ด้วยสาเหตุที่ไม่มั่นใจในการปรับตัวของบัวน้อย ลิงกอริลลาในวัยชราที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ด้วยความคุ้นเคยต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดเชื้อโรคใด ๆ เป็นเวลากว่า 30 ปี
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีหน่วยงานใดติดต่อเข้ามา เพื่อใช้เวลาศึกษา-วิเคราะห์ข้อมูลจากในสถานที่ และตัวตนที่แท้จริงของ “บัวน้อย” ซึ่งถือเป็นความละเอียดอ่อนมากสำหรับการเลี้ยงลิงกอริลลาให้อยู่รอดภายในสวนสัตว์ จนวันนี้ “บัวน้อย” อยู่ในวัยชรา บั้นปลายสุดท้ายของชีวิตตามอายุขัยของลิงกอริลลา
สวนสัตว์พาต้า ได้มีการประชุมเรื่องการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ด้วยความตระหนักดีว่า “ในอายุขัยเช่นนี้ บัวน้อย ลิงกอริลลาล้ำค่าตัวสุดท้ายของประเทศไทย สามารถตายจากเราไปได้ทุกเมื่อ”
รวมถึงเป็นการยากถึงยากที่สุด นับต่อจากนี้อีกหลายปี จะได้มีโอกาสเห็นลิงกอริลลาตัวต่อไปภายในประเทศไทย มุมมองของความต้องการให้ “บัวน้อย” กลับไปตายที่ประเทศต้นกำเนิดตามที่หลายฝ่ายต้องการนั้น อาจเป็นเรื่องที่สามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ แต่ผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องต่อกิจการสวนสัตว์ ไม่สมควรใช้คำว่า “ติดคุก” กับสัตว์ในสวนสัตว์
สวนสัตว์พาต้า จะไม่ขอกล่าวถึงสนธิสัญญาไซเตส (CITES) ที่ห้ามซื้อขายสัตว์ต้องห้ามบางจำพวก เช่น ลิงกอริลลา เพียงแต่ต้องการให้ข้อมูลความจริงว่า ที่ผ่านมา สวนสัตว์พาต้า ได้ให้ความรักและการดูแลเอาใจใส่กับบัวน้อยอย่างดีที่สุด แม้ระยะหลังบริษัทจะต้องประสบกับภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เจรจา หรือตั้งราคา “บัวน้อย” เพื่อให้ได้มาซึ่งการทดแทนด้วยผลกำไรจากสิ่งที่เรารัก และหวงแหนมากที่สุด
©2018 CK News. All rights reserved.