ลพบุรี เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนกล้วยหอมลุงไพวัลย์ อ.บ้านหมี่ ปลอดสารพิษ 100%


21 ต.ค. 2565, 16:03

ลพบุรี เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนกล้วยหอมลุงไพวัลย์ อ.บ้านหมี่ ปลอดสารพิษ 100%




จังหวัดลพบุรี ร่วมกับทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี เตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ โดยเตรียมเปิดสวนกล้วยหอมพันธ์ คาเวนดิช ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์ที่ลูกใหญ่กินอร่อย และเป็นสวนที่มีการปลูกแบบปลอดสารพิษแบบ100เปอร์เซ็น กินอร่อยแล้วยังมีความปลอดภัยอีกด้วย โดยสวนนี้เป็นของ

นายไพวัลย์ แจ่มแจ้ง อายุ 59 ปี เลขที่ หมู่ 4 ตำบลชอนม่วง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เล่าว่า เดิมมีอาชีพ รับเจาะน้ำบาดาล แล้วเริ่มปลูกกล้วยหอมพันธุ์ คาเวนดิช มีคนนำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วเอาหน่อเพาะเนื้อเยื่อมาปลูกโดยที่นำมา 1,800 หน่อ ในพื้นที่เดิมเป็นพื้นที่เลี้ยงวัว ในพื้นที่ 30 ไร่ ปลูกกล้วยหอมประมาณ 3-4 ไร่ และเป็นดินแดงที่ใช้เพาะปลูก บางส่วนของพื้นที่เป็นดินลูกรัง แต่สามารถพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำ และปรับปรุงดินให้ได้ผลผลิตไม่ต่างจากดินโดยทั่วไป การจะปลูกหน่อจะใส่ปุ๋ยอินทรีย์ รองก้นหลุมแล้วจึงจะลงหน่อ

"โดยให้มีหน่อ 3 หน่อ ต่อหลุมถ้ามีหน่อขึ้นมาใหม่ ก็จะตัดต้นแม่ออกแล้วให้เหลือหน่อใหม่เพียงแค่ 3 หน่อต่อหลุม จากนั้นก็บำรุงดินทุก 6 เดือน และปลอดสารเคมีในการเพาะปลูก น้ำปลูกใช้เป็นระบบน้ำหยดแล้วใช้พลังงานโซลาเซลล์ รดน้ำตามความชื้นเอาไม่จำเป็นต้องรดทุกวัน โดยใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนจึงจะแตกปลี แล้วใช้เวลา1สัปดาห์ แล้วจะสุดปลีจากนั้นใช้เวลา 75 วัน กล้วยจะสามารถตัดขายได้ วางแผนการผลิตไว้แค่ เครือหนึ่งประมาณ 12-20 หวี และแต่ละหวีจะได้ประมาณ 16-30 ลูก ต่อเครือ"



นายไพวัลย์ เล่าอีกว่า การเพาะปลูกกล้วยหอมต้อง มีห้องเก็บเป็นห้องเย็น โดยเก็บในอุณหภูมิ 10 กว่าองศาฯ เพื่อเป็นการเก็บรักษายืดอายุ กล้วยหอม เพื่อเป็นการทยอยนำมาออกขาย ในการขายส่งกิโลกรัมละ 18-20 บาท วันหนึ่งมีรายได้ประมาณ 5,000 บาท วันไหนมีเทศกาลที่มีวันหยุดก็จะขายดี โดยเฉพาะขายที่สวน วันละหมื่นกว่าบาท อีกเรื่องคือ กล้วยหอมพันธุ์บ้านเรามีแป้งและน้ำตาลเยอะ แต่พันธุ์นี้มีแป้งและน้ำตาลน้อย กินแล้วจะไม่เป็นลม เนื่องจากกล้วยพันธุ์นี้ถูกตัดแต่งพันธุกรรมมา ปัจจุบัน มีคนให้ความสนใจในการเพาะปลูกกล้วยหอมชนิด ซึ่งเป็นการปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช มีลักษณะเด่น เปลือกหนา ทำให้ขนส่งได้ง่ายไม่บอบช้ำ อีกทั้งรสชาติหวานน้อย ถูกปากผู้บริโภค บางครั้งเห็นนักกีฬากินกล้วยชนิดนี้

เจ้าของสวนเล่าให้ฟังว่า ก่อนแข่งขันกีฬาหรือตอนพักแข่งกีฬาจะเห็นนักกีฬากินกล้วยหอม คาเวนดิช เพราะไม่ทำให้จุก และมีน้ำตาลซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส ที่ร่างกายนำไปใช้สร้างพลังงานได้ทันที การสุกของกล้วยจะใช้ระบบความเย็นจากห้องแอร์ซึ่งสามารถทำให้บริหารจัดการเรื่องความสุกของกล้วย ทำให้ยืดระยะเวลาในการสุกได้ ปัจจุบันสามารถจัดจำหน่ายได้ วันละประมาณ 500 กิโลกรัม โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับถึงที่ ทางสวนกล้วยยินดีที่จะให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจทั่วไป และก็มีหลายหน่วยงาน และหลายสถาบันการศึกษาที่มาเชิญลุงไพวัลย์ไปเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่เกษตรกร ประชาชนทั่วไปและทางอำเภอบ้านหมี่กำลังช่วยในการจัดหาช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม" ปลัดอาวุโสเล่าถึงการไปเยี่ยม

สวนกล้วยหอมลุงไพวัลย์ นอกจากจะเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่จบเพียงป.4 แต่ก็สามารถค้นคว้าหาความรู้ต่างๆนำมาพัฒนาอาชีพเกษตรกรของตัวเองให้อยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างการเพาะปลูกพืชสวนต่างๆและยังรวมไปถึงการใช้ระบบน้ำหยดในการรดน้ำต้นไม้ทุกวัน เพื่อทำให้ผลผลิตของสวนนั้นมีคุณภาพ อีกทั้งการใช้ระบบโซลาเซลล์เข้ามาช่วยในระบบการใช้น้ำก็ยิ่งทำให้เป็นสวนที่มีความน่าสนใจในการเอาแบบอย่าง และการเพาะปลูกแบบไม่ใช้สารเคมีก็ยิ่งเป็นการเพิ่มคุณภาพของกล้วยหอมนี้ได้มากยิ่งขึ้น


โดยในปัจจุบันทางสวนได้มีการเพิ่มการแปรรูปกล้วยหอมขึ้นมาเพื่อเพิ่มเส้นทางการตลาดประกอบด้วย กล้วยหอมฟรีซดราย กล้วยหอมทอดสุญญากาศ กล้วยหอมผงชงดื่ม บานาน่า ช็อคโกเลต โดยหากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่สวนจะได้ทั้งความรู้ในการปลูกกล้วย ปลอดสารพิษแล้ว ยังได้สัมผัสกล้วยหอมขนาดใหญ่ได้ชิมกล้วยหอมสดจากสวนปลอดสารพิษ ชิมกล้วยหอมแปรรูป โดยการเดินทางก็ไม่ยากจากกรุงเทพ มาเส้นทางถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้าอำเภอบ้านหมี่ ไปอำเภอหนองม่วง สวนอยู่ติดถนน มาเที่ยวกันได้นะครับ











©2018 CK News. All rights reserved.