บุกช่วยพยาบาล “แม่-ลูก" เหยื่อ"ผู้นำคลั่งลัทธิ"ลวงให้หนี้อุปโลกน์ 140 ล้านบาท ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายสุดวิตถาร ทั้งโกนผมและลวกนํ้าร้อน


18 ต.ค. 2565, 11:52

บุกช่วยพยาบาล “แม่-ลูก" เหยื่อ"ผู้นำคลั่งลัทธิ"ลวงให้หนี้อุปโลกน์ 140 ล้านบาท ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายสุดวิตถาร ทั้งโกนผมและลวกนํ้าร้อน




วันที่ 18 ตุลาคม 2565 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าช่วยเหลือเยาวชน 2 คนและ 3 อดีตพยาบาล เหยื่อที่ถูกคนร้ายล่อลวงมากักขังไว้ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านสะพานพระราม 8 ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางพลัด กทม.

สืบเนื่องจาก “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” บก.สส.บช.น. รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่า ญาติของตนเป็นผู้หญิงพร้อมบุตรและเพื่อนรวม 5 คน ถูกบังคับทำงานอยู่ในห้องพักคอนโดฯดังกล่าว และถูกทำร้ายอย่างทารุณ โดยส่งรูปภาพสภาพร่างกายถูกโกนผมและมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก หลังได้รับแจ้ง พล.ต.ต.ธีรเดช สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ตรวจสอบจนทราบถึงสถานที่ที่ถูกกักขัง จึงขออนุมัติศาลอาญาธนบุรี ออกหมายค้นห้องพักดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงสั่งการเร่งด่วนให้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบห้องพักคอนโดฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งพบเหยื่อทั้ง 5 คน ภายในห้อง เบื้องต้นพบว่าเหยื่อบางรายมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวกและถูกทำร้ายตามร่างกาย สอบถามเหยื่อ 3 ราย เป็นแม่ลูกกัน อยู่ในอาการหวาดกลัว ให้ข้อมูลว่าถูกบังคับให้ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับ “นายทุน” อ้างเป็นแพทย์ลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น ทำงานสถานทูต โดยมีลูกน้อง 1 คน เป็นคนคอยมาควบคุม จากการตรวจสอบสภาพเหยื่อมีความผิดปกติ

จากการสอบสวนเหยื่อทีละคนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทำให้ทราบข้อเท็จจริง “สุดพิสดาร” โดยเหยื่อ 3 ราย เป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับนายทุน ผู้คลั่งลัทธิ โดยนายทุนจะใช้อุบายหลอกลวงทั้ง 3 ราย แรกเริ่มทำทีรวบรวมเงินไว้ที่นายทุนเมื่อธุรกิจเริ่มขับเคลื่อน โดยเหยื่อทั้ง 3 ราย ไม่ทราบและจะใช้ “ความกลัว” เข้ากดขี่ เช่นหลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ, ลูกค้าเรียกเงินคืน, ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง ฯลฯ

จากนั้นนายทุนจะอุปโลกน์ “หนี้” ยัดเยียดให้กับทั้ง 3 และใช้การหลอกว่า รู้จักกับตำรวจจะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้เกิดความกลัวและยอมตกเป็นเบี้ยล่างทำงานใช้หนี้ทิพย์นี้เรื่อยมากว่า 3 ปี ล่าสุดทั้ง 3 เข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนผู้นี้ถึง 140 ล้านบาท ทั้งที่แท้จริงทั้ง 3 ได้ถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สินไป รวมเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท ขณะนี้ได้นำตัวเหยื่อ และเด็กเข้ารับการรักษาพยาบาลที่รพ.ตร. และอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา ตำรวจ เข้าจับกุมตัวนายฮารุ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ที่กักขังเหยื่ออดีตพยาบาลสาว 3 ราย และลูกๆ อีก 2 ราย เพื่อนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวน บช.น. และพาตัวเข้าตรวจค้นห้องพักที่เกิดเหตุ ผลการตรวจค้น พบหนังสือจำนวนมาก, ภาพวาด และเครื่องบูชาแสดงถึงการมีความคลั่งลัทธิ และจากการตรวจสอบภายในพบว่าไม่พบเอกสารหรือสิ่งใดที่สามารถยืนยันชื่อสกุลจริงของนายฮารุได้ เพราะจะใช้ชื่อของเหยื่อในการทำธุรกรรมทั้งหมด

จากการสอบสวนนายฮารุ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยยอมรับเพียงว่า ได้เทน้ำร้อนผู้เสียหายจริง แต่เรื่องการสั่งให้ตบหน้าลูกนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนกรณีการเชิญชวนมาร่วมทำธุรกิจนั้นตนไม่เคยชักชวนใคร เพียงแต่เสนอไอเดียว่าเห็นเหยื่อเป็นอดีตพยาบาล จึงชวนมาสายความสวยความงามและจะลงทุนให้ เพราะเห็นว่าเหยื่อเงินไม่พอใช้ในการเลี้ยงลูกทั้ง 2 คน และตนเคยทำงานกับยูนิเซฟ ทำหน้าที่เป็นรีเสิร์ชชิ่ง ที่เกาหลีใต้และประเทศไทย ขึ้นอยู่กับโปรเจคท์ที่ทางยูนิเซฟอนุมัติให้ทำ และทำธุรกิจเครื่องประดับออนไลน์ เช่น e-bay amazon และออนไลน์ทางฝั่งเกาหลีใต้ทั้งหมด, เคยเรียนแฟชั่นและจิวเวลรี่ดีไซน์ แบบ certificate ของมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ, เคยเรียนแพทย์ทางเลือกแบบผสมที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ยังไม่จบหลักสูตร, เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ในช่วงโควิดระบาดหนักอีกด้วย





คำที่เกี่ยวข้อง : #ลัทธิคลั่ง  









©2018 CK News. All rights reserved.