กองปราบฯบุกช่วยเหยื่อสาวถูกฆาตกรต่อเนื่องแชทลวงสาว กักขัง ทารุณโหด


13 ต.ค. 2565, 12:17

กองปราบฯบุกช่วยเหยื่อสาวถูกฆาตกรต่อเนื่องแชทลวงสาว กักขัง ทารุณโหด




วันที่ 13 ตุลาคม 2565 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ต.ทศพล กิติลาภ, พ.ต.ต.แดนรบ สมัยชูเกรียติ์ สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายธนเดช หรือรุจ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ 473/2565 ลงวันที่ 29 กันยายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย" โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง 


การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.65 เวลาประมาณ 20.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งพบศพนางสาวกมลเนตร อายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ สภาพศพมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย กะโหลกศีรษะแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหัก ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า นายธนเดช แฟนของผู้ตายเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยนายธนเดชฯ รู้จักกับนางสาวกมลเนตร ผ่านทางแอปฯหาคู่ จากนั้นได้พูดคุยกันต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก และนายธนเดช ได้ชักชวนให้นางสาวกมลเนตรฯ มาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าย่านอรุณอมรินทร์

โดยนายธนเดช มักมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายนางสาวกมลเนตร ด้วยการซ้อม ทุบตี และกระทืบ ภายในบ้านเช่าดังกล่าว และจะกักขังนางสาวกมลเนตรฯ ไว้ในบ้าน จนภายหลังนางสาวกมลเนตรฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นายธนเดชฯ จึงได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ โดยก่อนเกิดเหตุ นายธนเดชฯ และ      นางสาวกมลเนตรฯ ทำความรู้จักกันเพียงไม่ถึง 1 เดือน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวนทราบว่านายธนเดชฯ ได้หลบหนีมาอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และขณะนั้นมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงและกักขังอยู่ในห้องพักของนายธนเดชฯ อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมผู้ต้องหา โดยขณะเข้าทำการจับกุม พบนางสาวเนย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดลำพูน อยู่ภายในห้องพักดังกล่าว โดยมีสภาพถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ มีรอยบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายเป็นจำนวนมาก ใบหน้าบวมช้ำจนผิดรูป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุง พร้อมกับจับกุมนายธนเดชฯ (ผู้ต้องหา) ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบ นายธนเดชฯ มีประวัติเคยก่อเหตุหลายคดี ทั้งคดียาเสพติด และคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ได้แก่
- พ.ศ.2557 ถูกดำเนินคดีข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.พระราชวัง
- พ.ศ.2558 ถูกดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.บางยี่ขัน
- พ.ศ.2559 ถูกดำเนินคดีข้อหา ฆ่าผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต ในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ โดย ถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ถูกจำคุกจริง 5 ปี 10 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564

ทั้งนี้ในส่วนของนางสาวเนยฯ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือไว้ได้นั้น นางสาวเนยฯ ได้กล่าวระหว่างถูกช่วยเหลือว่า “คิดว่าตนเองจะต้องตายในห้องนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้” และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบทั้งน้ำตาว่า รู้จักกับนายธนเดชฯ เมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค.65  ผ่านแอปฯ หาคู่ จากนั้นได้พูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก โดยแชทคุยกันประมาณ 1 เดือน ต่อมานายธนเดชฯ ได้ลวงให้นางสาวเนยฯ เดินทางมาหาที่ จ.พัทลุง โดยบอกว่ารักนางสาวเนยฯ มาก อยากพบเจอ ซึ่งเมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย.65 นางสาวเนยฯ จึงได้นั่งรถไฟจาก จ.ลำพูน มาหานายธนเดชฯ ที่ จ.พัทลุง ซึ่งหลังจากพบกันครั้งแรก

นายธนเดชฯ ได้พานางสาวเนยฯ ไปทานข้าวที่ตลาด ซึ่งระหว่างนั้นนายธนเดชฯ เกิดอาการหึงหวง กล่าวหาว่านางสาวเนยฯ ไปมองชายอื่น หลังจากนั้นจึงได้นำจานข้าวปาใส่ใบหน้า และเทน้ำซุปราดศีรษะนางสาวเนยฯ พร้อมทั้งใช้กำลังตบตี และฉุดกระชากนางสาวเนยฯ มาที่ห้องพักในแมนชั่นที่นายธนเดชฯ เช่าอาศัยอยู่ จากนั้นได้กักขังนางสาวเนยฯ ไว้ในห้อง ไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ติดต่อกับผู้ใด และใช้กำลังทำร้ายร่างกายเรื่อยมา ซึ่งหากนายธนเดชฯ เสพยาบ้า และมีอาการเมายา นายธนเดชฯ จะลงมือทำร้ายนางสาวเนยฯ หนักขึ้น ซึ่งนางสาวเนยฯ ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ภายในห้องเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ามาช่วยเหลือและจับกุมนายธนเดชฯ ได้ในที่สุด

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเป็นผู้ลงมือ     ทำร้ายทั้งนางสาวกมลเนตรฯ จนถึงแก่ความตาย และ นางสาวเนยฯ จนได้รับบาดเจ็บจริง สาเหตุที่ทำกับเหยื่อแต่ละคนนั้น นายธนเดชฯ อ้างว่าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ทำไปเนื่องมาจากความรัก ความหึงหวง และควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จึงพลั้งมือทำร้าย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าที่ผ่านมานายธนเดชฯ มักมีพฤติกรรมชอบแชทคุยกับหญิงสาว โดยจะบอกว่ารักและขอนัดเจอ เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อ จะพามากักขังที่ห้องพัก ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ฆาตกรต่อเนื่อง  









©2018 CK News. All rights reserved.