กูรูการตลาดยก 3 จุดแข็งที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องทำ ใช้เทคโนโลยี รูปแบบการดำเนินการดี และมีสุนทรียศาสตร์ 


2 ต.ค. 2565, 12:19

กูรูการตลาดยก 3 จุดแข็งที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องทำ ใช้เทคโนโลยี รูปแบบการดำเนินการดี และมีสุนทรียศาสตร์ 




วันที่ 2 ตุลาคม 2565 นายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งบริษัทออฟฟิศเมท  อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ในงาน Digital SME Conference Thailand 2022 เปิดเผยถึงเคล็ดลับการสร้างและสเกลธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน ว่า มายด์เซ็ท คือสิ่งที่ตนให้ความสำคัญมากที่สุด ยิ่งมีมายด์เซ็ทที่ดี ก็จะยิ่งมีพัฒนาการที่ดีเช่นกัน และพัฒนาการนี่แหละ คือ สิ่งที่จะเป็นเครื่องยืนยันว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน นอกจากนี้ยังได้ยกกฎเหล็ก 3 ข้อที่คนทำธุรกิจต้องมีคือ 1. ขยัน อดทนต่อเนื่อง ผู้ประกอบการต้องมีเทคนิคกระตุ้นให้เราขยันอย่างต่อเนื่อง เช่น แพชชั่นหรือแรงบันดาลใจ ด้านบวกคือ ความฝันและความหวัง โดยส่วนตัวตนเริ่มต้นจากห้องแถว 2 ห้อง ความฝันของเด็กอายุ 21-22 ปี ตอนนั้น คือการมีเครื่องเขียนที่ดีที่สุด แต่กว่าจะถึงฝันก็กินเวลาเกือบ 20 ปี 

ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอกคือ อย่าตั้งเป้าหมายใหญ่เกินไป จงตั้งเป้าหมายเป็นช่วง ๆ ขณะเดียวกัน การเป็นผู้ประกอบการต้องอ่านหนังสือเยอะ ๆ เพราะการอ่านหนังสือคือการย่อยจากสิ่งที่ดีมาก ๆ จบได้ในครึ่งวันหรือหนึ่งวัน เพราะในหนังสือมีคุณค่า และที่สำคัญอย่า ‘สักแต่อ่าน’ คุณต้องเปลี่ยนความรู้ที่อยู่ในหนังสือเป็นความคิดของเราเอง จากความคิดต้องเปลี่ยนเป็นการกระทำ และต้องเปลี่ยนมาเป็นบทสรุปใหม่ มันจะวนหลูปแบบนี้ เพราะการเรียนรู้ไม่มีวันจบ ข้อ 2. คือ ใฝ่รู้การทำธุรกิจการเรียนรู้เพิ่มเติมสำคัญมาก โดยส่วนตัวไม่ชอบคำว่า จบการศึกษา เพราะการศึกษาไม่มีวันจบ และ 3. ซื่อสัตย์มีคุณธรรม คนทำธุรกิจถ้าขาด 3 ข้อนี้ โอกาสไปต่อยาก 

นายวรวุฒิ ได้ยกตัวอย่างสถานการณ์ VUCA World โดยระบุว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญในโลกธุรกิจในปัจจุบัน V-Volatility เปลี่ยนแปลงเร็ว สิ่งนี้ทุกคนรู้เผชิญอยู่แล้ว U-Uncertainty คือความไม่มีความแน่นอนเช่น เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีสถานการณ์ที่คนทั่วโลกหยุดเดินทาง ห้ามออกจากบ้าน และใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน 2-3 ปี จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 C-Complexity ความซับซ้อน นอกจากไม่แน่นอนแล้วยังมีความซับซ้อนเช่น สงคราม ที่อาจจะพัฒนาไปสู่สงครามโลกได้ ซึ่งเชื่อมโยงกับ A-Ambiguity ความครุมเครือชวนงง ว่า ต่อไปเราจะใช้ชีวิตกันยังไง ในโลกธุรกิจ ความสำเร็จในอดีตไม่สามารถพิสูจน์ได้ในปัจจุบัน แต่โลก VUCA ไม่ต้องการคนยึดติด 

ผู้ก่อตั้งออฟฟิศเมท กล่าวถึงจุด่อนของเอสเอ็มอีไทย ว่า ส่วนใหญ่มักไม่ทำบัญชีให้ถูกต้อง ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า การทำบัญชีไทยยาก และหลายคนไม่ชอบทำบัญชีเพราะกลัวเสียภาษี ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่ การทำบัญชีถูกต้องเป็นสิ่งที่สมควรทำมากกว่า เพราะมันหมายความว่าบริษัทเริ่มมีกำลัง สำหรับตนกว่าพี่จะเสียภาษีคือปีที่ 6 เพราะขาดทุนมาโดยตลอด การทำบัญชีถูกต้องทำให้เราสเกลงานได้อย่างถูกต้อง บริษัทต้องมีระบบควบคุมตรวจสอบบัญชี ไม่ใช่มีแค่คนมาตรวจสอบเพียงอย่างเดียว เพราะบัญชีคือตัวบอกสุขภาพธุรกิจเรา 

“ผมทำบัญชีโดยไปเทียบกับของต่างประเทศ ซึ่งอเมริกาคิดเป็น 8% ในการจ่ายเงินเดือนพนักงาน แต่ของออฟฟิศเมท จ่ายเงินเดือนพนักงาน 17% แต่กว่าจะทำได้ 8% ต้องใช้เวลากว่า 10 กว่าปี ไม่ได้หมายความว่าเราไปลดเงินเดือนพนักงาน แต่เป็นการเพิ่มยอดขายให้มากกว่าเงินเดือนพนักงาน ซึ่งเรื่องพวกนี้ผู้ประกอบการไทยขาดอย่างแรง ส่วนหลักการทำกำไรในธุรกิจ คือ ต้องลดต้นทุนการทำงานให้ต่ำที่สุด และคุณภาพการทำงานต้องสูงที่สุด และที่สำคัญ ผมจะไม่ให้ใต้โต๊ะใครเด็ดขาด” นายวรวุฒิ กล่าว 

นายวรวุฒิ ยังได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการที่จะพัฒนานาองค์กรให้เก่งและดี ถ้าเป็น SME คุณจะได้คนที่บริษัทใหญ่ไม่ได้รับ แต่ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ "เพชรในตม" ที่ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะเจียระไนได้ดีแค่ไหน คำถามคือ ลูกน้องที่มีอยู่ในวันนี้ คุณพัฒนาให้เขาเก่งขึ้นสมกับสิ่งที่คุณอยากไปให้ถึงแล้วหรือยัง อีกมุมคือเรื่องของการโปรโมทพนักงาน การจะโปรโมทใครอย่าคิดว่าเขาทำงานในหน้าที่เขาให้ดี แต่ต้องดูว่าเขาเหมาะสมในตำแหน่งนั้นจริงไหม เพราะเวลาที่เจ้านายจะโปรโมทใคร เขาจะให้งานคุณเยอะกว่าคนอื่น เพราะบริษัทมักจะทดสอบอยู่เสมอ ให้คิดอยู่เสมอว่านี่คือโอกาสในการเติบโตของคุณ สิ่งสำคัญคือคุณต้องสร้างมายด์เซ็ท ในองค์กรให้ดี เพราะการทำให้พนักงานรักบริษัท ไม่เป็นคำถามที่ผิด แต่ต้องมองว่าทำอย่างไรให้เขารู้ว่าบริษัทรักเขา

นายวรวุฒิ ยังได้ชี้ถึง จุดแข็ง 3 เรื่องของบริษัทยุคใหม่ ต้องประกอบไปด้วย 1. ต้องมีการใช้เทคโนโลยี 2. ต้องมีขั้นตอนการดำเนินการ (Operation Process) ที่โดดเด่น และ 3. สำคัญมากในยุคปัจจุบันคือ ต้องมีสุนทรียศาสตร์ ( Aesthetics) เช่น รูป รส กลิ่น เสียง รู้สึกดียกตัวอย่างสตาร์บัค เช่น มีจุดเด่นในแง่มาตรฐานรสชาติเหมือนกันในทุกแก้ว, เขามีเหรียญของเขาเอง และสตาร์บัคยังสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เสมอ เช่น การเขียนชื่อลูกค้าแสดงถึงความใส่ใจ, การจัดวางโต๊ะใส่ใจความรู้สึก อย่างไรก็ตามแต่ละธุรกิจจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น โรงพยาบาล จุดเด่นคือ การใช้เทคโนโลยี การดำเนินการ และปัจจุบันก็มีสุนทรียศาสตร์ให้เห็นหลายแห่ง เป็นต้น ทั้งนี้แต่ในช่วงท้าย นายวรวุฒิยังได้ให้การบ้าน ผู้ประกอบการทุกคนว่า วันนี้ทุกคนที่ทำธุรกิจอยู่ได้ทำแบบนี้หรือยัง 





คำที่เกี่ยวข้อง : #กูรูการตลาด  









©2018 CK News. All rights reserved.