ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 ก.ย.2565 พ.ต.ท.บุญเรือง พันธนู สว.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทอง ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านคลองสี่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ยุทธภูมิ โพธิ์อุดม รองผกก.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี ตำรวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายทองตั้งอยู่ที่ชั้น2 ของห้างสรรพสินค้า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาร่องรอยของคนร้ายอย่างละเอียด ขณะเดียวกันยังพบอาวุธปืนแบบแม็กกาซีนสีดำของคนร้ายตกอยู่ที่ช่องบันไดเลื่อนของห้าง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย1คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีดำมีแถบสีส้ม นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำ เดินขึ้นมาจากบันไดเลื่อนก่อนจะชักอาวุธปืนข่มขู่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะกระโดดข้ามไปหยิบสร้อยคอทองคำที่ตู้โชว์และหลบหนีไปทางบันไดทางขึ้น เบื้องต้นพบว่าทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปทั้งหมดน้ำหนักรวม 36 บาท เป็นสร้อยคอทองคำ 2 บาท 18 เส้น

พยานที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.ซึ่งดูแลความเรียบร้อยตรงประตูทางเข้าพบความผิดปกติจึงเดินเข้าไปบอกให้คนร้ายถอดหมวกกันน็อกแต่คนร้ายไม่ยอมถอด ก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 โดยมีรปภ.คอยติดตามไปและเป็นจังหวะเดียวกันที่คนร้ายขึ้นไปก่อเหตุเสร็จเมื่อเห็น รปภ.วิ่งตามมา จึงชักอาวุธปืนออกมา รปภ.ตกใจและตกบันไดเลื่อนจนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนคนร้ายกระโดดลงจากบันไดเลื่อนอีกฝั่งหนึ่งมาอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้อาวุธปืนตกลงไปกระแทกพื้นด้านข้างช่องบันไดเลื่อน จากนั้นคนร้ายได้วิ่งไปขึ้นรถจยย.สีดำที่จอดอยู่ตรงช่องจอดรถยนต์แล้วขี่หลบหนีไป ขณะนั้นมีมีพลเมืองดีขับรถตามแต่คลาดเคลื่อนกัน

พ.ต.ท.บุญเรือง เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับผ่านและหลบหนี พร้อมทั้งสอบปากคำพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมาย