ที่จังหวัดอุทัยธานี จะเห็นได้ว่าโครงการอาหารกลางที่โรงเรียนแต่ละแห่งได้งบประมาณมาอย่างจำกัด คนละ 21 บาท ต่อวันต่อมื้อ และโรงเรียนก็ทำอาหารตามงบประมาณที่มีอยู่ และจากปัญหาดังกล่าวจะเห็นเป็นข่าวอาหารกลางวันไม่เพียงอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็เกิดข้อร้องเรียนจากงผู้ปกครองโวยอาหารกลางวันเด็ก โรงเรียนดังนนทบุรี ให้กิน "มาม่า" วันเว้นวัน กับ "ขนมปี๊บ" มื้อไหนที่เป็นข้าวก็มีแต่วิญญาณเนื้อสัตว์กับผัก ซ้ำมีกลิ่นเน่าตุๆ ต้องซื้อขนมที่ครูขายกินเพิ่มเติม จนเป็นข่าวดังเมื่อวานที่ผ่านมา ( 23 ส.ค. )
ส่วนที่จังหวัดอุทัยธานี มีผู้ใช้เฟสบุ๊ค Gartoon Thammathitipong ซึ่งเป็นคุณครูรับผิดชอบโครงการอากลางวัน ได้โพสต์ โดยมีข้อความ จุดแข็ง : คิดเมนูอาหารกลางวันนักเรียนเก่งมาก จุดอ่อน : อยู่บ้านแม่คิดและทำให้ทุกมื้อ #รีวิวอาหารกลางวันโรงเรียนวัดท่าโพ ครูเลือกซื้อวัตถุดิบเอง ช้อปเอง จ่ายเอง เดินตลาดเก่งกว่าเดินออกกำลังกาย ยกของประหนึ่งว่าเล่นกีฬายกน้ำหนัก หมูได้ ไก่ได้ ผักก็ดี มี 2 อย่างที่ยังไม่เคยยก คือถังแก๊สกับกระสอบข้าว คิดเมนูแบบกุมขมับทุกวันเพราะอยากให้อาหารหน้าตาดี (เหมือนครูที่ รร.) #หยอกกก เพราะอยากให้ดูน่าทาน เด็กๆจะได้แฮปปี้แหละ แม่ครัวก็สู้ชีวิตมาก คิดอะไรทำได้หมด 555 อะไรไม่มีก็วิ่งไปเอาที่บ้านมาให้ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่าาาา#ปีนี้ที่ท่าโพ#มีเมนูผักเพื่อให้เด็กลดความอ้วน#ลดตั้งแต่พฤษภาพอสิงหาหนักกว่าเดิม#ฉันเหนื่อยกับเด็กมากนะ555 #ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่เมตตาเด็กๆด้วยนะคะ#อนุโมทนาบุญกันค่าาา โดยมีภาพอาหารกลางวันสุดหรู ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในทางชื่นชม และให้กำลังใจครู ที่ต้องใช้งบที่มีอยู่แต่ได้อาหารที่มีคุณค่าและน่ารับประทาน
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียน วัดท่าโพ ตำบลท่าโพ อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กอยู่ในหมู่บ้านในชนบท ซึ่งคุณครูที่รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน และแม่ครัว กำลังปรุงอาหารกลางวันหลากหลายเมนูให้เด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงนักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 จำนวน 100 คน โดยเมนูอากลางวันในวันนี้ เป็นเมนูข้าวผัดอมเมริกัน นักเก็ตไก่ ฮอทดอก ต้มฟักไก่มะนาวดอง และขนมมินิวาฟเฟิล มีมีสันน่ารับประทานแถมยังตักได้ไม่อั้นอีกด้วย นางณัฏฐ์นรีรชา เกตุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดท่าโพ ได้บอกกับทีมข่าวว่า ทางโรงเรียนได้มีนโยบายอาหารกลางวัน ให้นักเรียนอิ่ม อร่อย มีความสุข โดยมอบหมายให้คุณครู ดูแลรับผิดชอบบริหารจัดการ ตั้งแต่การเลือกเมนู การคัดสรรวัตถุดิบ และควบคุมการทำอาหารของแม่ครัว รวมถึงการสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนด้วยว่า ในอาทิตย์นี้นักเรียนอยากจะรับประทานอะไรกันบ้าง ที่นักเรียนเคยเห็นตามทีวี คุณครูก็จะจัดให้นักเรียนได้รับทานตามความต้องการของนักเรียน สำหรับงบประมาณเราได้รับจัดสรร 21 บาท ต่อคน ต่อวัน เท่ากับทุกโรงเรียน ซึ่งไม่เพียงต่อการให้นักเรียนทานอิ่มแบบเติมไม่อั้น เพราะว่าถาดนึงคิดถัวๆกันแล้ว เกิน 21 บาท แล้ว เราจึงใช้วิธีการระดมทุนจากกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และใช้การบริหารจัดการงบประมาณที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยให้คุณครูเป็นผู้จ่ายตลาดเอง เพื่อลดต้นทุน โดยมีเมนูแต่ละวันที่แตกต่างกันไปหลากหลายเมนูแบบไม่ซ้ำ เช่น เช่น ต้มข่าไก่ ไข่ลูกเขย ส้มสายน้ำผึ้ง- เยลลี่รสผลไม้ , มักกะโรนีผัดซอส (ไส้กรอก) น้ำซุป ผลไม้ มะละกอสุก เป็นต้น
ทางด้านนางสาวปัทมาภรณ์ ธรรมฐิติพงษ์ ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน กล่าวว่าตนเองได้รับมอบหมายให้คิดเมนู รวมทั้งจัดหาวัตถุดิบต่างๆ มาให้แม่ครัวดำเนินการปรุงอาหาร ซึ่งทำให้ได้วัตถุดิบที่มากขึ้น คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โดยในแต่ละวันจะเน้นให้เด็กๆได้ทานกับข้าวอย่างน้อย 2 อย่าง โดยจะมีอาหารคาว และขนมหวาน หรือผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากการเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลจะทำให้ได้วัตถุดิบราคาถูกลง จะสามารถซื้อได้ปริมาณมากขึ้น จึงจะเพียงพอต่อนักเรียนในโรงเรียน และอาหารกลางวันที่ได้จัดทุกวันจะเน้นอาหารครบห้าหมู่ เนื่องจากเด็กที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับประทานข้าวเช้ามาจากที่บ้าน จะสามารถทดแทนในมื้อที่โรงเรียนได้ เนื่องจากมีเนื้อ มีผัก ครบ อีกอย่างจะเป็นการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการต่างๆ เช่นผอม หรืออ้วนจนเกินไป ก็ดำเนินการสนองนโยบายทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือ สพฐ ด้วย โดยสร้างสีสันให้เด็กๆอยากรับประทานผัก หรือรับประทานอาหารมากขึ้น จะเลือกผักที่มีสีสันหลากหลาย เช่น ข้าวผัด จะใส่ผักไปอย่างน้อย 3-4 สีเพื่อดึงดูดให้เด็กๆ เกิดความอยากประทานและรู้จักผักได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมเป็นการจูงใจให้เด็กนักเรียนมาโรงเรียนทุกวัน อีกด้วย และบางมื้อก็จะมีผู้ใหญ่ใจดีนำขนมมาจัดเสริมให้เพิ่มเติม หรือบางวันก็มีผู้ใหญ่ใจดีจัดอาหารกลางวันมาเลี้ยงเด็ก ก็จะทำให้วันนั้นไม่ต้องจัดอาการกลางวันทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้อีก
©2018 CK News. All rights reserved.