"สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" นำทีมผู้สมัคร ส.ส. 4 เขต พรรคพลังประชารัฐ จ.นครพนม ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้าย (มีคลิป)


13 มี.ค. 2562, 09:24

"สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" นำทีมผู้สมัคร ส.ส. 4 เขต พรรคพลังประชารัฐ จ.นครพนม ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้าย (มีคลิป)




วันที่ 12 มี.ค.62 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ  นำทีมผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 เขตเลือกตั้งของจังหวัดนครพนมปราศรัยหาเสียง ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม โดยผู้สมัคร เขต 1 นายธงทิพย์ชลิต  แห่สถิต  เขต 2 นางสาวณัฐภัสส์  ยงใจยุทธ เขต 3 นายแพทย์อลงกต  มณีกาศ  เขต 4 นายชูกัน  กุลวงษา  พร้อมผู้บริหารพรรค พปชร. ร่วมกันปราศรัยหาเสียง  มีประชาชนมาร่วมฟังประมาณ 12,000 คน 

นายสุริยะฯ  กล่าวว่า เคยมาหาเสียงที่นครพนม กับนายกทักษิณ  สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย  ปรากฏว่า มีปัญหาความยากจนของประชาชนมีอยู่มาก ปัจจุบันก็ยังมีคนเป็นหนี้มากเหมือนเดิม  ก่อนนี้มีพรรคการเมืองแข่งขันกันเพียงสองขั้ว คือ พรรคไทยรักไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ ใครเป็นฝ่ายค้านก็คอยจ้องล้มรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลจึงไม่ค่อยมาดูแลประชาชนเพราะคอยป้องกันตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา  พรรค พปชร.จึงขอเสนอตัวเป็นทางเลือก เข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง คนเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านปลายปีที่ผ่านมา พี่น้องชาวอีสานต้องกู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน จะต้องเสียค่านายหน้าให้กับนายทุนร้อยละยี่สิบ ถ้าหากได้เป็นรัฐบาลจะชะลอ ดอกเบี้ยเงินกู้กองทุนหมู่บ้านโดยจะพักหนี้ให้ 5 ปี ชาวบ้านไม่ต้องจ่าย ถ้าได้เป็นรัฐบาลแล้ว จะมีทีมเศรษฐกิจหลายคนมาทำงาน เพื่อให้กระทรวงการคลังมีเงิน เมื่อรัฐบาลมีเงินจะให้รัฐบาลยกเลิกหนี้ที่ชะลอไว้ และจะเสนอให้มีกองทุนประชารัฐ จะมีวงเงินหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนหมู่บ้านให้กู้ได้ 30,000 บาท แต่กองทุนประชารัฐ จะสามารถให้กู้ได้ 60,000 บาท ดอกเบี้ยถูก ถ้าหากว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะยกหนี้ให้

ทางรัฐบาลมีเงินช่วยเหลือปีใหม่ คนละ 500 บาท ในช่วงสงกรานต์ ถ้าเป็นไปได้ก็จะให้เงินพิเศษกับชาวบ้านฉลองสงกรานต์ นอกจากนี้ บัตรประชารัฐมีวงเงินให้ประชาชน 300 – 500 บาท ทางรัฐบาลจะขยายวงเงินให้ เป็นบัตรประชารัฐตลอดชีวิต ชั่วลูกชั่วหลาน เป็นการเติมเงินให้เต็มที่ โดยจะให้มีการสำรวจ ว่าคนไหนจนจริง ถึงจะให้



โครงการมารดาประชารัฐ   ถ้าท้องรับเงิน 3,000 บาท ท้อง 9 เดือน จะได้ 27,000 บาท วันคลอด 10,000 บาท และจะดูแลลูก เดือนละ 2,000 บาท จำนวน 6 ปี รวมแล้วเมื่อมีบุตร จะมีเงิน 110,000 บาท/คน ถ้าเป็นลูกแฝดจะเพิ่มให้ 1 เท่า

ด้านราคาข้าว สำหรับชาวนา จะได้ค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,500 บาท ที่นาจำนวน 12 ไร่ จะได้เงิน 18,000 บาท คิดว่าน่าจะน้อยไป ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะเพิ่มให้อีกไร่ละ 2,000 บาท  จะให้ค่าปลูกข้าว 1,500 บาท/ไร่ ถ้า 20 ไร่ จะได้ 20,000 บาท 

เวลานี้ลูกหลานของชาวบ้านไปทำงานต่างจังหวัดกันมาก จะเสนอแก้ปัญหาให้ ถ้าได้เป็นรัฐบาล ส่งเสริมให้มีโรงงานในจังหวัดให้มาก  พร้อมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ ถ้าท่านอยากให้ทำจะต้องเลือก ส.ส.พรรค พปชร.ยกจังหวัด จะได้เป็นแกนนำรัฐบาล ถ้าไม่ได้เป็นแกนนำ ก็ไม่สามารถทำได้ 

บางพรรคมาเลียนแบบนโยบายของเรา พรรคเหล่านั้นได้เป็นรัฐบาลมาหลายปีแล้ว ทำไมไม่ทำ ทำไมเพิ่งจะมาทำตอนนี้ พรรคเราไม่ชอบ Copy นโยบายของพรรคใดนายสุริยะกล่าวในที่สุด












©2018 CK News. All rights reserved.