สวดพระมาลัยสั่งสอนคนเป็นในงานคนตาย หนึ่งเดียวที่ชาวบ้านอนุรักษ์ จ.ลพบุรี


17 ส.ค. 2565, 13:23

สวดพระมาลัยสั่งสอนคนเป็นในงานคนตาย หนึ่งเดียวที่ชาวบ้านอนุรักษ์ จ.ลพบุรี




ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งบรรพบุรุษ ปู่ย่า ตายาย ส่วนใหญ่มักตกล่นสูญหายไปก็มาก แต่ก็ยังดีที่มีผู้อนุรักษ์ให้หลงเหลืออยู่ที่หมู่บ้านบัวชุม ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี นั่นคือ”ประเพณีสวดพระมาลัยงานศพ” ที่ชาวบ้านบัวชุมปฎิบัติสืบทอดกันมายาวนานประมาณเกือบ200ปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคาดว่ายังคงมีเหลืออีกเพียงไม่กี่หมู่บ้านที่ยังอนุรักษ์เอาไว้ได้

โดย นายกลั่น โม่งแสวง อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าและต้นเสียงทีมงานสวดพระมาลัยประจำหมู่บ้านกล่าวว่า บัวชุมเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ขนาดใหญ่มีประวัติมายาวนานเมื่อครั้งในอดีตปู่ย่าตายายบอกเล่าต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่า เดิมทีนั้นการสวดชนิดนี้มักจัดขึ้นในงานแต่งงาน ซึ่งแต่เดิมเรียกว่าการอ่านพระมาลัยมีผู้อาวุโสประจำหมู่บ้านเป็นคนอ่าน เพื่อให้คู่บ่าวสาวและชาวบ้านแขกเหรื่อที่มาร่วมงานฟัง โดยเนื้อหาของพระมาลัยนั้นจะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้ถึงผลของบาป ของบุญ ว่าช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ใครทำบุญด้วยอะไร วิธีไหน เมื่อตายไปจะได้รับผลบุญอย่างไรขึ้นสวรรค์ชั้นไหน แต่ในทางกลับกันผู้ที่ทำบาปเมื่อตายไปแล้วจะต้องได้รับผลกรรมตกนรกขุมไหน ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างใด ซึ่งในบทสวดพระมาลัยจะอธิบายถึงผลของบุญและบาปแต่ละชนิดโดยละเอียดจนผู้ที่ได้รับฟังสามารถมองเห็นภาพเลยที่เดียว



แต่ในชั้นหลังๆการอ่านพระมาลัยในงานแต่งงานไม่ค่อยเป็นผลมากนัก เนื่องจากเจ้าภาพและชาวบ้านที่มาร่วมงานส่วนใหญ่มักตั้งวงดื่มเหล้าเมายาสนุกสนานเฮฮาซะมากกว่าจึงไม่มีผู้สนใจฟังการอ่านพระมาลัยเท่าที่ควร ผู้อาวุโสและนักปราชญ์ชาวบ้านในยุคนั้นจึงมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการนำพระมาลัยมาอ่านในงานศพแทน เพื่อให้เจ้าภาพ ญาติพี่น้อง ชาวบ้านที่มาร่วมงานซึ่งทุกคนต่างอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจได้รับฟัง ซึ่งพบว่าทุกคนที่มาร่วมงานต่างสนใจรับฟังการอ่านพระมาลัยดีกว่างานแต่งงาน จากนั้นผู้อาวุโสและนักปราชญ์หมู่บ้านจึงได้คิดค้นดัดแปลงการอ่านพระมาลัยให้มาเป็นการ”สวดพระมาลัย” และเพื่อให้เป็นที่หน้าสนใจฟังยิ่งๆขึ้น โดยจัดให้มีชาวบ้านร่วมเป็นผู้สวดที่เป็นต้นเสียงกับลูกคู่ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยมีการประยุกต์บทสวดให้มีการประสานเสียง สวดตามช่วงทำนองที่มีอยู่หลายบทหลายตอน ซึ่งมีเสียงดังโหยหวน,อ่อนโยน,นิ่งเรียบ,และดุดัน ตามแต่และบทของตัวอักษร เช่น บทฉัน,ร่าย,เอกบท และราบ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจแก่ผู้ที่ได้รับฟังมากยิ่งขึ้น


สำหรับการสวดพระมาลัยนั้น โดยในการสวดนั้นจะเริ่มขึ้นหลังจากพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงจะเริ่มลงมือสวด และเนื่องจากหนังสือบทสวดพระมาลัย มีความยาวมากผู้สวดทุกคนจึงจำเป็นต้องนั่งสวดจนถึงรุ่งเช้า ซึ่งถือว่าได้กุศลทั้งผู้ที่สวดและผู้ที่ได้รับฟัง พร้อมทั้งยังอยู่เป็นเพื่อนเจ้าภาพงานศพจนถึงรุ่งแจ้งอีกด้วย จึงนับได้ว่าเป็นการ”สวดพระมาลัยสั่งสอนคนเป็น ในงานศพของคนตาย”

ดังนั้นชาวบ้านจึงช่วยกันอนุรักษ์ปฎิบัติสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นยังที่หมู่บ้านบัวชุม จังหวัดลพบุรีแห่งนี้ เพราะไม่ใช่เป็นการสวดเพื่ออุทิศให้กับผู้เสียชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการสั่งสอนคนเป็นๆที่ยังมีชีวิตให้เกรงกลัวต่อบาป ซึ่งในยุคปัจจุบันที่ผู้คนมีจิตใจที่โหดร้าย มุ่งหวังชิงดีชิงเด่น ทำร้ายเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวันไม่ได้เกรงกลัวต่อบาป ดังนั้นจึงน่าอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญหาย


คำที่เกี่ยวข้อง : #สวดพระมาลัย   #ลพบุรี  









©2018 CK News. All rights reserved.