เตือนโจรใจบาปขโมยหางช้าง ระวังธรณีสูบ พระสงฆ์ยัน งาช้างหางช้าง ขโมยไปมีแต่ล่มจม


4 ส.ค. 2565, 21:37

เตือนโจรใจบาปขโมยหางช้าง ระวังธรณีสูบ พระสงฆ์ยัน งาช้างหางช้าง ขโมยไปมีแต่ล่มจม




วันนี้ (4 ส.ค.2565 ) ผู้สื่อข่าวรายานว่า  หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายทำร้ายช้างช้าง ชื่อ “พังแม่เพียว” อายุ 70 ปี ที่ผูกเลี้ยงไว้กลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านท่าลาดหมู่ที่ 3 ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งพบบาดแผลร่องรอยถูกของมีคมแทงบริเวณขาหลังข้างขวา 2 แห่ง แต่แผลไม่ลึกมาก

นาย อานนท์ โคตรวงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าของช้าง ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ตนเองได้นำอาหารมาให้ช้างแล้วสังเกตว่า ช้างมีท่าทางเหมือนเจ็บที่ขาหลังด้านขวา พอมองดูก็เห็นเหมือนมีบาดแผลและมีเลือดไหลออกที่ช่วงเล็บของช้าง ตนก็รู้สึกตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ได้มองหาแถวบริเวณนั้นว่ามีอะไรพอที่จะทำให้เกิดบาดแผลได้หรือเปล่า แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะว่าตรงที่ผูกช้างไว้เป็นที่โล่ง ส่วนตัวแล้วก็คิดว่าน่าจะมีผู้ที่ไม่หวังดีแอบมาขโมยเพื่อที่จะตัดขนหางของพังแม่เพียว  เพราะว่าขนหางของพังแม่เพียวนั้นสวยและมีหางหงอกด้วย เป็นที่ต้องการของคนอยากได้และมีราคา ที่หลายคนต้องการ และเป็นสิ่งของที่หายาก  เพราะช้างของตัวเองนั้นเป็นช้างที่เชื่องไม่ทำร้ายคน  แต่เนื่องจากว่าช้างพังแม่เพียวจะหวงหางของตัวเองมาก อาจจะมีคนที่จะพยายามตัดเอาขนหางช้างแต่ว่าตัดไม่ได้ ก็เลยใช้ของมีคมแทงไปที่ขาของช้างแม่เพียวจนเกิดบาดแผลดังกล่าว ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ติดใจและไม่ได้ไปแจ้งความ แต่ก็อยากให้คนที่มีช้างให้ระมัดระวังเฝ้าดูแลช้างของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับช้างของใครอีก



หลังจากผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข่าวดังกล่าวไปแล้ว ล่าสุดวันนี้ (4 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลพื้นที่ไปพบกับหลวงพ่อ ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง บ.หนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม  และอยู่ติดกับพื้นที่โครการคชอาณาจักร หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก บ.ตากลาง ต.กระโพ  ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ในด้านคชศาสตร์ พร้อมกับสอบถามหลวงพ่อถึงพุทธคุณของหาช้างว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นมาเป็นไปอย่างไร จึงมักจะมีผู้คนชอบนำเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับช้างไปสวมใส่

หลวงพ่อ ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง กล่าวว่า เรื่องความเชื่อของหางช้าง มีเรื่องเล่ามาจากนางผมหอม ในสมัยที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นพระยาช้างโพธิสัตว์ ซึ่งพระยาช้างก็เป็นห่วงลูกสาว เมื่อแต่งงานแล้วต้อง สักวันต้องกับไปอยู่กับปู่ย่าฝ่ายสามี และตัวเองก็เป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ในป่า ไม่สามารถที่จะตามลูกสาวไปได้ ก็มีความคิดห่วงกังวลว่า คนเรามีแยกชั้นวรรณะกัน หากคนด้วยกันยังไม่ยอมรับกันเรื่องฐานะ ถ้าเขาทราบว่าลูกสาวตนเองเป็นลูกสาวสัตว์เดรัจฉาน ก็ยิ่งแต่จะไม่ยอมรับเลย กลัวปู่ย่าครอบครัวฝ่ายสามีจะไม่ยอมรับ  เลยไม่มีสมบัติอะไรให้ลูก ก็เลยให้เอาหางช้างไป เอางาไป ส่วนหางที่เอาไป ถ้าลูกสาวไม่สบายก็ให้เอาไปปัดรังควาน เอาไปจุ่มพรมน้ำมนต์ปัดให้ลูกให้หลาน หรือแทนเส้นด้ายสายสิญจน์ผูกแขนเรียกขวัญให้หลาน ยามลูกหลานตกใจและเจ็บไข้ได้ป่วย นี่คือสรรพคุณ  แต่ว่าสิ่งที่ได้มาทุกอย่าง จะต้องได้มาจากสิ่งที่เขาให้ ถึงจะมีพุทธคุณ แต่ถ้าเราไปลักขโมยยังไงก็ไม่ได้ ไม่มีพุทธคุณแล้ว ยังได้ถูกสาปแช่งอีกด้วย เพราะฉะนั้นการที่ไปขโมยตัดงาโดยที่เจ้าของและช้างไม่อนุญาต นอกจากจะไม่รู้บุญคุณของผู้ให้ผู้รับแล้ว ยังเป็นโทษกับผู้รับอีก เพราะฉะนั้นขนช้างที่เขาให้คือ เขาร่วง หรือไปขอขมาลาโทษเอา จะต้องมีวันฤกษ์งามยามดี มีพิธีตัด ถึงจะได้เป็นมงคลและมีพุทธคุณ  งาช้างก็เช่นเดียวกัน งากระเด็น งากัดกำจายคือเขาให้ จะมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว

ถ้าไปฆ่าเอามานอกจากจะไม่มีคุณแล้วเป็นโทษกับผู้ทำอีก ผู้ได้อีก เพาะฉะนั้นที่เห็นว่าหลายคนได้งาช้างแล้วอยู่ไม่ได้ เอาไปขายต่อขายต่ออยู่เรื่อย เพราะไม่มีใครรักษาเอาไว้ได้  เขาให้ถึงจะได้   อาตมาขอฝากถึงผู้ที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย เช่นลักหางช้างกตาม ขโมยตัดงาช้างก็ตาม นอกจากจะไม่เป็นมงคลกับตนเองแล้ว ในพุทธศาสนา พระไตรปิฏก บอกว่า จะถูกแผ่นดินสูบ ยกตัวอย่างพระพุทธเจ้า เป็นพระยาช้างโพธิสัตว์  เทวทัต เป็นนายพราน ทุกภพทุกชาติไปฆ่าช้างเอางา จะถูกแผ่นดินสูบทั้งนั้นเลย ไม่ควรจะคิดไม่ควรจะทำ คนที่ได้ไปก็ไม่ควรจะเอา คนซื้อก็ไม่เป็นมคล คนขายก็ไม่เป็นมงคล คนขโมยก็ไม่เป็นมงคล ทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง บางคนที่ร่ำรวย ซื้องาช้างที่เขาฆ่าเอางา ล่มจมไปเยอะแยะมากมาย ขอฝากขโมยทั้งหลายอย่าคิดทำเลย หลวงพ่อ ดร.หาญฯกล่าว


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจร้านจำหน่ายเครื่องประดับเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับช้าง ไม่ว่าจะเป็นแหวนและกำไลหางช้าง สร้อย-กำไลงาช้าง และกระดูกช้าง รวมไปถึงขอบังคับช้างที่มีหลายขนาด ภายในร้านธนาพร ตั้งอยู่หน้าประตูทางเข้าศูนย์คชศึกษา จ.สุรินทร์ (คด-ชะ-สึก-สา) บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม  พบว่าแหวนหางช้างจะมีราคาตั้งแต่ 150 บาท ถึงหลักหลายร้อยบาท ส่วนกำไลหางช้างหลักพันบาทขึ้นไป ส่วนหางช้างหงอกสีขาว ก็จะมีราคาที่แพงขึ้นตามลำดับ เพราะเชื่อวาจะมีพุทธคุณและความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า

ส่วนเครื่องประดับที่ทำมาจากงาช้างนั้น ก็จะมีราคาสูงและแพงกว่าหางช้างและมีหลายราคา อยู่ที่ขนาดและแบบลวดลาย เจ้าของร้านยืนยันว่าเครื่องประดับเกี่ยวกับช้างทั้งหมด เป็นของที่ได้มาอย่างถูกต้อง มีการทำพิธีอย่างถูกต้องและก็มีพุทธคุณตามความเชื่อ  หากประชาชนและนักนักทองเที่ยวที่สนใจ สามารถเดินทางแวะเข้ามาเที่ยวดูวิถีชีวิตของคนกับช้างและการแสดงช้างแสนรู้ได้ทุกวันที่นี่ และยังมีอีกหลายร้านให้เลือกซื้อตามใจชอบอีกด้วย


คำที่เกี่ยวข้อง : #ขโมย  









©2018 CK News. All rights reserved.