วันเข้าพรรษา 2565 ประวัติและความสำคัญ 


11 ก.ค. 2565, 15:50

วันเข้าพรรษา 2565 ประวัติและความสำคัญ 




วันเข้าพรรษา 2565 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565 วันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่งที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น คือตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 วันเข้าพรรษา 2565 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2565 แรม 1 ค่ำ เดือนแปด(8) ปีขาล

การเข้าพรรษาของพระสงฆ์ แบ่งเป็น 2 ประเภท

ปุริมพรรษา คือ การเข้าพรรษาแรก - การเข้าพรรษาแรก เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 (สำหรับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน จะเริ่มในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง) จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หลังจากออกพรรษาแล้ว พระที่อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือน ก็มีสิทธิที่จะรับกฐินซึ่งมีช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

ปัจฉิมพรรษา คือ การเข้าพรรษาหลัง - เริ่ม แรม 1 ค่ำ เดือน 9 และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ในกรณีที่พระภิกษุติดกิจต้องเดินทางไกลหรือมีเหตุสุดวิสัยให้ไม่สามารถเข้าพรรษาในรอบแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ได้



ประวัติวันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ พอถึงฤดูฝนพระภิกษุส่วนใหญ่ก็อยู่ประจำที่เช่นเดียวกับนักบวชนอกพุทธศาสนาที่มักถือเป็นประเพณีปฏิบัติอยู่จำพรรษามาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ปรากฏว่ามีพระภิกษุกลุ่มฉัพพัคคีย์พาบริวารจำนวน 1,500 รูปเที่ยวจาริกไปตามที่ต่างๆ เนื่องจากตอนต้นพุทธกาลยังไม่มีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษา ทำให้ชาวบ้านพากันติเตียนถึงการจาริกของท่านเพราะไปเหยียบข้าวกล้าในนาเสียหาย เมื่อรู้ไปถึงพระพุทธเจ้า จึงทรงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์ ตรัสถามจนได้ความจริง แล้วทรงบัญญัติให้พระภิกษุอยู่จำพรรษา เป็นเวลา 3 เดือนในฤดูฝน

ฉะนั้น ในวันเข้าพรรษาที่มักตรงกับฤดูการเกษตรนี้ชาวบ้านจะปลูกพืชผล และภิกษุสงฆ์จะจำวัดเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนพุทธศาสนิกชนก็ร่วมบำเพ็ญกุศล ตักบาตร ถวายเทียนพรรษา รักษาศีล โดยความสำคัญของวันเข้าพรรษามี 5 ข้อ ดังนี้

- พืชผลที่ชาวบ้านปลูกเป็นต้นกล้า จะได้เติบโตแข็งแรงไม่ถูกทำลายจากกรณีกิจของพระสงฆ์ที่ต้องเดินทางรับกิจนิมนต์
- ให้พระภิกษุสงฆ์ได้หยุดพักผ่อนจากการเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนา
- พระภิกษุสงฆ์จะได้ฝึกปฏิบัติธรรมสำหรับตนเองเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรม
- บวชเรียนบุตรหลานที่ถึงวัยบวช หรือบรรพชา เพื่อเป็นกำลังในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
- เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้บำเพ็ญกุศล ถือศีล เจริญภาวนา ฟังเทศน์ ถวายเทียนพรรษา และถวายผ้าอาบน้ำฝน

นอกจากนั้น วันเข้าพรรษา ยังยกเว้นสำหรับพระภิกษุที่ประสบเหตุดังต่อไปนี้ แม้จะเป็นระหว่างพรรษาก็สามารถหลีกไปที่อื่นได้โดยไม่อาบัติ แต่ขาดพรรษา คือ ถูกสัตว์ร้ายรบกวนหรือเบียดเบียน ถูกงูรบกวนหรือขบกัด ถูกโจรเบียดเบียนหรือปล้น ทุบตี ถูกปีศาจรบกวน เข้าสิงหรือฆ่า ชาวบ้านที่ให้ความอุปถัมภ์ไม่สามารถอุปถัมภ์ได้ต่อไปเพราะย้ายถิ่น ฐานไปที่อื่น หรือเสนาสนะของภิกษุถูกไฟไหม้น้ำท่วม หรือมีผู้จะพยายามทำร้าย พระภิกษุสามารถหลีกไปอยู่ที่อื่นระหว่างพรรษาได้

วันเข้าพรรษา นอกจากจะเป็นช่วงที่พระภิกษุอยู่ประจำที่ดังกล่าวแล้ว ยังก่อให้เกิดประเพณีสำคัญขึ้นอีก 2 ประเพณีคือ ประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝน และ ประเพณีแห่เทียนพรรษา

ประเพณีสำคัญขึ้นในวันเข้าพรรษามี 2 ประเพณีคือ

ประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝน - เกิดขึ้นโดยมีเรื่องเล่าว่า ในสมัยพุทธกาล ครั้งหนึ่งนางวิสาขา มหาอุบาสิกาต้องการจะนิมนต์พระภิกษุไปฉันภัตตาหารที่บ้าน

ประเพณีแห่เทียนพรรษา - เกิดจากความจำเป็นที่ว่าสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อพระภิกษุอยู่รวมกันมากๆเพื่อปฏิบัติกิจวัตร เช่น การสวดมนต์ตอนเช้ามืดและพลบค่ำ การศึกษาพระปริยัติธรรม การบูชาพระรัตนตรัย ฯลฯ จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากเทียน ดังนั้น ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันนำเทียนมาถวาย ซึ่งช่วงต้นก็คงจะถวายเป็นเทียนเล็กๆธรรมดา ครั้นต่อมาก็ได้มีการมัดเทียนเล็กๆมารวมกันเป็นต้น คล้ายต้นกล้วยหรือลำไม้ไผ่ แล้วติดกับฐาน ที่เรียกกันว่า ต้นเทียน หรือ ต้นเทียนพรรษา และก็วิวัฒนาการมาเรื่อยๆจนเป็นเทียนพรรษาอย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน


สำหรับปัจจุบัน ได้มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยที่ถือเอาวันเข้าพรรษาเป็นวันสำรวจพฤติกรรมของตนที่ผ่านมา และตั้งจิตอธิษฐานที่จะลด ละ เลิกสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เช่น เลิกเหล้า อดบุหรี่ การพูดจาหยาบคาย ฯลฯ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ๓ เดือน โดยใช้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นในการกระทำดี ซึ่งก็นับว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอสำหรับความตั้งใจสร้างเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้น อันมีอานิสงส์ทำให้ตนเอง ครอบครัวและสังคมเกิดความสุข สงบร่มเย็น

ความสำคัญและประโยชน์ของการเข้าพรรษา - ช่วงเข้าพรรษานั้นเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่นา ดังนั้นการกำหนดให้ภิกษุสงฆ์หยุดการเดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ ก็จะช่วยให้พันธุ์พืชของต้นกล้า หรือสัตว์เล็กสัตว์น้อย ไม่ได้รับความเสียหายจากการเดินธุดงค์ หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนามาเป็นเวลา 8 - 9 เดือน ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่ให้พระภิกษุสงฆ์ได้หยุดพักผ่อน และเป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมสำหรับตนเอง และศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตลอดจนเตรียมการสั่งสอนให้กับประชาชนเมื่อถึงวันออกพรรษา เพื่อจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนและบวชให้กับกุลบุตรผู้มีอายุครบบวช อันเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป

ปฏิทินวันเข้าพรรษาของแต่ละปี
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2556 ตรงกับ วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2556 / วันอังคาร แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะเส็ง
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2557 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2557 / วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะเมีย
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2558 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2558 / วันศุกร์ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปดหลัง(๘๘) ปีมะแม
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2559 ตรงกับ วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2559 / วันพุธ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีวอก
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2560 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2560 / วันอาทิตย์ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีระกา
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2562 ตรงกับ วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2562 / วันพุธ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีกุน
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2563 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2563 / วันจันทร์ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีชวด
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2564 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2564 / วันอาทิตย์ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปดหลัง(๘๘) ปีฉลู
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2565 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2565 / วันพฤหัสบดี แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีขาล
วันเข้าพรรษา พ.ศ.2566 ตรงกับ วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2566 / วันพุธ แรม ๑ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีเถาะ

ข้อมูล :กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ,อมรรัตน์ เทพกำปนาท


คำที่เกี่ยวข้อง : #วันเข้าพรรษา  









©2018 CK News. All rights reserved.