เผยต้นเหตุไฟไหม้สำเพ็ง สังเวย 2 ศพ หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เจ้าของอาคารจ่อฟ้องการไฟฟ้า


27 มิ.ย. 2565, 11:52

เผยต้นเหตุไฟไหม้สำเพ็ง สังเวย 2 ศพ หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เจ้าของอาคารจ่อฟ้องการไฟฟ้า




กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท ราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด เลขที่ 157 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ประกอบกิจการขายกระเป๋าผ้า ถุงพลาสติก ถุงกระดาษ กล่องใส่สินค้าสำเร็จรูป ตั้งอยู่ริมถนนใจกลางย่านธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกสำเพ็ง ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นและลุกลามไปยังคูหาข้างเคียงเสียหายรวม 4 คูหา ส่งผลให้ไฟคลอกพนักงานของร้านเสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 11 ราย และเผารถที่จอดหน้าร้าน 4 คัน เมื่อวานนี้ ( 26 มิ.ย.) สาเหตุเพลิงไหม้นั้นเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดขึ้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมด้วย น.ส.โสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่สภาวิศวกร ร่วมตรวจสอบเหตุหม้อแปลงระเบิด เพลิงไหม้ลุกลามเข้า บริษัท ราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด ค้าถุงพลาสติก ที่ถูกดพลิงไหม้

น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายประมาณ 4 คูหา ซึ่งจากการประเมินมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และยอมรับว่า ยังไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญ โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งสำรวจสายไฟเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบจุดที่มีความเสี่ยงก็ให้แจ้งมายังสำนักงานเขตได้ รวมถึงจะเชิญการไฟฟ้ามาประชุมร่วมกันว่าให้ไปตรวจสอบว่าในพื้นที่ มีหม้อแปลงไฟฟ้าที่เก่าเกินอายุที่สมควร คือ มากกว่า 20 ปี หรือไม่ เพราะจากข้อมูลของการไฟฟ้าระบุว่าหม้อแปลงที่มีอายุเกิน 20 ปี จะต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ และหากในพื้นที่ยังมี หม้อแปลงประเภทนี้อยู่ก็จะประสายให้ดำเนินการดูแลเปลี่ยนใหม่ หรือซ่อมแซม ให้สมบูรณ์อย่างรัดกุมมากขึ้นต่อไป

ส่วนหม้อแปลงบริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุนั้นตนไม่สามารถตอบได้ว่ามีอายุการใช้งานมากี่ปี แต่เท่าที่สังเกตด้วยสายตาเชื่อว่าน่าจะใช้งานมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ทางเขต จะมีการอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จึงจะถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเรื่องการดูแลสายไฟ และมาตรการป้องกันระวังภัยเกี่ยวกับสายไฟฟ้าด้วยอีกทางหนึ่ง

มีรายงานว่า ทางเจ้าของอาคารให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนเรื่องหม้อแปลงไฟฟ้าและสายไฟที่มักมีการชำรุดบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาได้แจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาซ่อมแซมเป็นประจำแต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ซึ่งทางเจ้าของอาคารและเจ้าของกิจการในละแวกดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายอาจมีการปรึกษานักกฎหมายเพื่อดำเนินการฟ้องร้องให้การไฟฟ้าและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

ด้านนายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่มีการนำเสนอข่าวว่าอาจมีสาเหตุมาจากหม้อแปลงไฟฟ้านั้น ขณะนี้การไฟฟ้านครหลวงยังอยู่ในระหว่างการร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริง โดยเฉพาะหม้อแปลงไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุ ที่มีรูปแบบเป็นหม้อแปลงวงจรตาข่าย (Network transformer) มีการเชื่อมโยงของระบบของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งตามมาตรฐานของหม้อแปลงไฟฟ้าจะมีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรอัตโนมัติ เช่นเดียวกับหม้อแปลงไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุครั้งนี้ MEA ได้ตรวจสอบพบภายหลังจากเพลิงสงบว่ามีการแสดงผลการทำงานของระบบป้องกันแล้ว อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจสอบว่าการทำงานของระบบป้องกันที่เกิดขึ้นมีความสมบูรณ์หรือไม่อีกครั้งหนึ่ง

การไฟฟ้านครหลวงยังคงให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะเร่งด่วนตามมาตรการฉุกเฉินที่ MEA กำหนดไว้ รวมถึงการประสานงานกับผู้ว่าฯกทม. และร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่เพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริง และร่วมวางแนวทางป้องกันเพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ไฟไหม้สำเพ็ง  









©2018 CK News. All rights reserved.