เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจ.นครราชสีมา ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจ.นครราชสีมา เรื่อง ห้ามพระภิกษุรับตำแหน่งพระฐานานุกรมนอกพื้นที่ ระบุว่า ด้วยจ.นครราชสีมา ได้มีพระภิกษุกระทำการขอรับตำแหน่งฐานานุกรมของพระราชาคณะนอกพื้นที่จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นฐานานุกรมซ้ำซ้อน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการคณะสงฆ์จ.นครราชสีมาเป็นอย่างมาก ทั้งยังสร้างความเสื่อมเสียให้แก่เจ้าของฐานานุกรมที่ถูกแอบอ้าง ตามที่ปรากฏเป็นคดีความและการร้องเรียนอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการระมัดระวังและป้องกันปัญหาอันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์จ.นครราชสีมาในภายภาคหน้า เจ้าคณะจ.นครราชสีมา จึงออกคำสั่งห้ามพระภิกษุสงฆ์ ในเขตปกครองคณะสงฆ์จ.นครราชสีมา กระทำการขอรับตำแหน่งพระฐานานุกรมของพระราชาคณะนอกพื้นที่จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นฐานานุกรมซ้ำช้อน อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา และต่อคณะสงฆ์จ.นครราชสีมา

โดยมีรายงานว่า การออกคำสั่งดังกล่าวของเจ้าคณะจ.นครราชสีมา เนื่องมาจากมีพระสงฆ์ ฝ่ายมหานิกาย จ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีแสดงมุทิตาจิตในโอกาสที่ พระเอกลักษณ์ อตฺถกาโร ประธานสงฆ์สวนป่าศรัทธาธรรม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดำรงค์ตำแหน่งฐานานุกรมที่ พระครูปลัดเอกลักษณ์ อตฺถกาโร ต่อมา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. พระเทพวิริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 จ.พัทลุง ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจ.นครราชสีมา ระบุว่า ตามที่มีข่าวว่า พระเทพวิริยาภรณ์ ได้แต่งตั้งพระครูปลัดให้ พระเอกลักษณ์ อตฺถกาโร ฐานานุกรมในตำแหน่งสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นเทพที่ได้รับพระราชทานนามนั้น ไม่เป็นความจริง โดยฐานานุกรมในตำแหน่งพระครูปลัด พระครูวินัยธร พระครูสังฆรักษ์ พระครูสมุห์ พระครูใบฎีกา ได้แต่งตั้งในจ.พัทลุง 4 ตำแหน่ง และในจ.นครศรีธรรมราช 1 ตำแหน่ง ไม่ได้มีการแต่งตั้งข้ามเขตหนใดๆทั้งสิ้น ส่วนจะมีกลุ่มบุคคลหรือคณะบุคคลนำไปแอบอ้างหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ขอให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) พัทลุง ได้ดำเนินการตามเห็นสมควร เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในกิจการคณะสงฆ์

นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า มีพระสงฆ์จากอ.สีคิ้ว และอ.ด่านขุนทด ถูกหลอกให้รับตราตั้งเป็นพระฐานานุกรมของพระสารคามมุนี รองเจ้าคณะจ.มหาสารคาม เจ้าอาวาสวัดสว่างวารี ด้วย

นายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังพศจ.นครราชสีมาแล้ว พบว่าได้มีการให้พระเอกลักษณ์ เข้ารับตราตั้งจากพระผู้ใหญ่ในจ.นครราชสีมา ทำให้ทางเจ้าคณะจ.นครราชสีมา เกิดข้อสงสัย เพราะพระเอกลักษณ์เป็นพระจากจ.ศรีสะเกษ จึงได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้รับการยืนยันจาก พระเทพวิริยาภรณ์ ว่า ไม่ได้มีการแต่งตั้งให้พระเอกลักษณ์ เป็นพระครูปลัดในฐานานุกรมของพระเทพวิริยาภรณ์ แต่อย่างใด และเอกสารตราตั้งจึงอาจจะมีการปลอมขึ้นมาจากขบวนการที่ไปหลอกพระเอกลักษณ์ได้ จึงได้ขอให้ทางพศจ.นครราชสีมาตรวจสอบเอกสารตราตั้ง พัดยศ และสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อหาต้นตอของเรื่องนี้ เพราะเท่าที่ทราบการตั้งพระฐานานุกรมซ้ำซ้อนเกิดขึ้นหลายที่ ดังนั้นหากได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วทางพศ.จะได้ตรวจสอบดูว่าเป็นขบวนการกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และจะได้มีการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้สำหรับ ฐานานุกรม หมายถึง ลำดับตำแหน่งสมณศักดิ์พระสงฆ์ซึ่งภิกษุมีตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์มีสิทธิ์ตั้งพระรูปอื่นได้ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาต เช่น ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้นไปจนกระทั่งถึงสมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง ภิกษุได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า พระฐานานุกรม ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์เหมือนพระสมณศักดิ์ที่ทรงแต่งตั้ง ตำแหน่งฐานานุกรมเริ่มต้นที่ พระใบฎีกา พระสมุห์ พระปลัด พระครูใบฎีกา พระครูสมุห์ พระครูสังฆรักษ์ พระครูปลัด เป็นต้นไปจนถึงพระราชาคณะ ซึ่งเรียกว่า พระราชาคณะปลัดซ้าย พระราชาคณะปลัดขวา