จากกรณีมีคลิปที่วัดแห่งหนึ่งถูกเผยแพร่ เนื้อหาภายในคลิปมีลักษณะ มีหญิงสาวอาละวาดเข้าขอเงินพระในวัดแห่งหนึ่ง เป็นหญิงสาววัยกลางคนอาละวาดด่าทอพร้อมกับขอเงินจำนวน 3000 บาทจากพระ จนมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามาเคลียร์ และต่อว่าหญิงสาว พร้อมหญิงสาวรับเงินจากพระส่งให้หญิงคนดังกล่าวจึงได้เดินออกจากวัดด้วยอาการฉุนเฉียว และจากการตรวจสอบพบว่าเช้าวันที่ 10 พ.ค.65 เจ้าคณะตำบลนาสาร อยู่ภายในกุฎิเจ้าอาวาสกำลังพูดคุยอยู่กับพระในคลิป ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือพระจันทร์ ขุมขำ อายุ 65 ปี พระลูกวัดในคลิป ปฏิเสธว่าได้ใช่เรื่องชู้สาว และต่อมาด้านนาย กัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอบ้านนาสารได้เดินทางลงพื้นที่วัดนาสาร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นได้สอบถามทางเทศกิจเทศบาลตำบลบ้านนาสารแจ้งว่า หญิงรายดังกล่าวชอบมาอาลวาดขอเงินในลักษณะมึนเมาบ่อยครั้ง จนพระลูกวัดรูปอื่นได้โทรแจ้งให้มาช่วยระงับเหตุหลายครั้งแล้ว ซึ่งในรายละเอียดอื่นๆคงต้องเป็นการตรวจสอบของทางคณะสงฆ์ต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 1400 น วันที่ 10 พ.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปเชิญตัวหญิงสาวดังกล่าว มาที่วัดนาสาร เพื่อมาสอบถามข้อเท็จจริง เมื่อมาถึงนางสาวหญิงได้พยายามตะโกนเรียกหลวงตาจันทร์ลงมาจากกุฏิ เพื่อมาเคลียร์กัน แต่หลวงตาก็ไม่ได้ลงมาพูดอะไร ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับหลวงตา โดยนางสาวหญิงนามสมมุติ อายุ40 ปี ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลวงตาแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังได้บอกอีกว่า ตนเคยขึ้นไปนอนบนกุฏิหลวงตากลางคืนในช่วงที่ไม่มีที่นอนแต่ก็ไม่ได้มีเพศสัมพันกับหลวงตา ซึ่งตนเป็นคนมีสติดี คงไม่มีเพศสัมพันธ์กับพระ แต่ต่อมาเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปเรื่อยๆนางสาวหญิงกลับปฏิเสธว่าไม่เคยขึ้นไปบนกุฏิแต่อย่างใด
และอ้างว่าเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงเพราะว่าตนเองนำเงินของหลวงตาไปซื้อโทรศัพท์จึงทำให้เกิดเรื่องดังกล่าว ส่วนพฤติกรรมเรื่องอื่นๆของตนเองมันก็เป็นเรื่องของส่วนตัวและไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงได้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ทั้งนี้โทรศัพท์ของตนเองเสียได้ยืมโทรศัพท์หลวงตาโทรกลับติดต่อยังบ้านและหลวงตารับปากว่าจะให้เงินจำนวน 3000 บาทเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิดภูมิลำเนาแต่ตนเองได้นำไปซื้อโทรศัพท์มือถือแต่เมื่อมาถึงตามที่รับปากปรากฏว่าหลวงตาได้ปฏิเสธจะไม่ให้จนเป็นที่มาของการเกิดการโต้เถียงดังกล่าว
ล่าสุดทางฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ พระครูธีรธรรมพิมล ดร ทิม ฉนทธมโม เจ้าคณะอำเภอบ้านนาสารได้มีคำสั่งให้พระรูปดังกล่าวกลับไปต้นสังกัดที่จังหวัดสุรินทร์แล้ว
©2018 CK News. All rights reserved.