แม่เฒ่าวัย 73 ยันเคยพบ "พระพุทธรูปทองคำ" ในถ้ำเขาพระทอง เผยอาถรรพ์ทำพ่อ-หลานดับปริศนา 3 ศพ 


25 มี.ค. 2565, 13:57

แม่เฒ่าวัย 73 ยันเคยพบ "พระพุทธรูปทองคำ" ในถ้ำเขาพระทอง เผยอาถรรพ์ทำพ่อ-หลานดับปริศนา 3 ศพ 




กรณีที่วัดเขาพระทอง ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เลื่อนกำหนดการจัดงานแห่ผ้าห่มหลวงพ่อองค์ใหญ่ วางศิลาฤกษ์สร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง โดยจะมีคณะบิณฑ์ - เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางมาร่วมเป็นประธานพิธี เมื่อวันที่ 17 มี.ค.65 แต่มีหลายคณะที่ไม่ทราบการประกาศเลื่อน จึงเดินทางมาร่วมพิธี ทางวัดจึงจัดกิจกรรมสวดเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญบ้าน ทำบุญเมือง ทำบุญประเทศ ไล่โรคร้ายโควิด บวงสรวงขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่ เทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขออนุญาตนำคณะขึ้นยอดเขาพระทอง เพื่อค้นหาถ้ำที่เป็นตำนานเรื่องเล่าที่มาของ “ เขาพระทอง และ วัดเขาพระทอง ” และตามที่เคยมีคนขึ้นไปพบจริง เมื่อหลายปีก่อน อย่างไรก็ตามคณะตามหาถ้ำหาสมบัติเขาพระทอง พบว่าปากถ้ำถูกหินหล่นลงมาปิดทับจนเหลือช่องแคบ ไม่สามารถลงไปจนถึงห้องโถงก้นถ้ำได้ จึงไม่พบมหาสมบัติ และพระพุทธรูปทองคำ ตามที่ล่ำลือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 24 มี.ค.65 พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า กรณีสื่อมวลชนส่วนกลาง ติดตามทำข่าวการค้นหาถ้ำมหาสมบัติที่มีตำนานเรื่องเล่าว่ามีพระพุทธรูปทองคำปางยืนประทานพรขนาดเท่าคนจริงถูกล่ามโซ่ทองคำอยู่ในถ้ำ โดยมีชาวบ้านเคยไปพบมหาสมบัติและพระพุทธรูปทองคำในถ้ำ และก่อนหน้านี้ทางวัดและชาวบ้าน เคยขุดพบพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ ในถ้ำ คาดว่าอายุ 300 - 400 ปี ขึ้นไป โดยล่าสุดขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2558 จำนวน 3 องค์ จึงนำมาให้อาตมาเก็บรักษาเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา แต่สื่อมวลชนส่วนกลาง นำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนระบุ เอาเองว่าพระที่ขุดพบทั้ง 3 องค์ อายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งอาตมาและทุกคนในวัด ไม่เคยมีใครระบุเรื่องอายุของพระที่ขุดพบ เพราะอาตมาไม่ได้มีความรู้เชี่ยวชาญ เรื่องพระ เครื่องรางหรือวัตถุมงคล อาตมาไม่ใช่เซียนพระ  แต่ยันว่าพระทุกองค์ ค้นพบในถ้ำเขาพระทอง และมีพยานบุคคลที่เป็นพระและฆราวาสยืนยันได้



“ ล่าสุดสื่อมวลชนส่วนกลาง นำภาพถ่ายไปให้ “ณัฐ แฟนพันธุ์แท้” ดูว่าพระที่พบอายุเป็น 1000 ปี จริงหรือไม่ และทาง ณัฐ แฟนพันธ์แท้ ระบุว่า 2 องค์ เป็นพระสมัยอยุธยา และอีกองค์หนึ่งสมัยรัตนโกสินทร์ ราวสมัยรัชกาลที่ 6  พร้อมสรุปว่า ที่บอกว่าพระอายุพันปี จึงไม่เป็นความจริง ทางวัดหรือทีมงาน อาจสร้างเรื่อง สร้างกระแส เพื่อผลประโยชน์บางอย่างหรือไม่ ซึ่งอาตมามองว่าเป็นการนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นธรรมกับอาตมา และวัดเขาพระทอง เป็นอย่างมาก และไม่สนใจที่จะนำเสนอเรื่องการค้นหาถ้ำมหาสมบัติ และพระพุทธรูปทองคำในถ้ำ ตามตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมาหลายชั่วอายุคน

พระมหาอารยนันต์ กล่าวอีกว่า ทีมข่าวเดินทางมาพบอาตมาขอให้อาตมาและลูกศิษย์วัด รวมทั้งชาวบ้าน ฝ่าพายุฝนขึ้นค้นหาถ้ำมหาสมบัติ และพระพุทธรูปทองคำ เหนื่อยยากลำบาก และสุ่มเสี่ยงอันตราย 3 - 4 วัน และพบว่ามีถ้ำอยู่จริง เพียงแต่เข้าไปไม่ได้ เพราะปากถ้ำถูกหินถล่มปิดทับ รวมทั้งมีคนที่เคยพบทรัพย์สมบัติ และพระพุทธรูปทองคำถูกล่ามโซ่ มายืนยันชี้จุดที่พบ แต่กลับมานำเสนอข่าวสรุปว่า พระพุทธรูปที่ทางวัดและชาวบ้านขุดพบเมื่อปี พ.ศ.2558 จำนวน 3 องค์ นั้นอายุนับพันปี และนำภาพไปให้เซียนพระชื่อดังดู ก่อนที่เซียนพระคนดังกล่าวจะระบุว่า พระพุทธรูปอายุไม่ถึงพันปี เป็นการหลอกลวงสร้างกระแส สร้างภาพไม่น่าจะถูกต้องนัก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของอาตมา และวัดไม่น้อย อย่างไรก็อาตมาไม่ได้โกรธสื่อฯช่องดังกล่าว และคิดว่าความจริงคือความจริง อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด เพียงแต่อาตมา อยากให้เสนอข่าวรอบด้าน สรุปจบแบบนี้ เหมือนจงใจทำลายวัดเขาพระทองให้เสียหาย

ขณะที่นางเอื้อน ยังแจ๊ก อายุ 73 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด กล่าวยืนยันว่า เคยไปเห็นพระพุทธรูปปางยืนประทานพรสีเหลืองอร่าม ซึ่งเชื่อว่าเป็นทองคำจริง และถูกล่ามโล่สีเหลืองคล้ายทองคำที่ข้อเท้า เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ตนอายุ 42 ปี และยังจำติดตาพร้อมเก็บเป็นความลับมานาน 31 ปี เพิ่งเปิดเผย ตอนสื่อมวลชนส่วนกลางสอบถาม และตนยังนำไปชี้จุดปากถ้ำเขาพระทอง ที่พบพระพุทธรูปทองคำอีกด้วย ตนจำเรื่องนี้ขึ้นใจมาตลอด เพราะก่อนที่ตนไปพบพระพุทธรูปทองคำนั้น เมื่อ 5  -6  ปี ก่อนนั้น นายด้วง ยังแจ๊ก บิดาของตน เป็นคนไปพบพระพุทธรูปทองคำก่อนและเกิดความโลภเข้าไปยกดึงโซ่ทองคำที่ล่ามข้อเท้าพระพุทธรูป เพื่อนำออกจากถ้ำกลับบ้าน แต่ภูเขาเกิดสั่นสะเทือนก้อนหินน้อยใหญ่ถล่มลงมานายด้วง พ่อของตน จึงวิ่งหนีตายออกจากถ้ำ และมาเล่าให้ตนและชักชวนชาวบ้านจำนวนหนึ่งกลับไปค้นหาพระพุทธรูปทองคำในถ้ำอีกครั้ง แต่ไม่พบ

หลังจากนั้น 5 - 6 ปี พ่อของตนเสียชีวิตอย่างปริศนาตน และญาติเชื่อว่า เกิดจากอาถรรพ์พระทองคำที่พ่อตนไปลบหลู่ หลังจากนั้นตนนอนฝันเห็นทรัพย์สมบัติ และพระพุทธรูปทองคำ รวมทั้งพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ จำนวนมากในถ้ำ โดยคนที่เฝ้าถ้ำชวนให้ตนไปเอาพระพุทธรูป รุ่งเช้าตนชวนหลานอายุ 9 - 10 ปี จำนวน 2 คน ไปตรวจสอบโดยนำเทียนพรรษาเล่มใหญ่ติดมือไปด้วย และพบว่าปากถ้ำแคบ มีแสงสีเหลืองแดงสาดส่องออกมานอกถ้ำ จึงใช้เทียนพรรษาจุดส่องเข้าไปในถ้ำก็ต้องตกตลึงเมื่อพบพระพุทธรูปทองคำปางยืนพระทานพร ล้มตะแคงไปพิงกับผนังถ้ำ คาดว่าเป็นองค์เดียวกับที่นายด้วง พ่อของตนพบ และพยายามนำกลับบ้าน แต่ไม่สำเร็จ

นางเอื้อน  กล่าวอีกว่า ขณะนั้นมีค้างคาวหลายร้อยตัวบินกรูออกจากถ้ำ จนหลานสองคนของตนเกิดความหวาดกลัว ขณะที่ตนไม่กล้าเข้าไปในถ้ำ และพบว่าใต้ต้นไม้หน้าถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็ก และลูกดินกลม ๆ คล้ายลูกยิงหนังสติ๊กกระจายอยู่จำนวนมาก ทราบภายหลังว่า ลูกกลม ๆ คือ ลูกธนูคนธรรพ์ ตนจึงให้หลานทั้งสองคนหยิบเอาพระพุทธรูปขนาดเล็ก และลูกธนูคนธรรพ์ ติดมือมาอย่างละ 1 - 2 องค์/ลูก ก่อนพากันรีบเดินกลับบ้าน จากนั้นทราบว่าหลานของตนแอบมาขโมยพระพุทธรูปจากหน้าถ้ำไปอีกคนละ 2 องค์ กระทั้งหลานของตนถูกรถชนเสียชีวิตทั้งสองคน ตนและญาติ ๆ เชื่อว่าเกิดจากอาถรรพ์ที่ไปขโมยพระพุทธรูปหน้าถ้ำเขาพระทอง ตนเก็บเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นความลับไม่เคยเปิดเผยที่ไหน กับใครมายาวนาน และยอมเปิดเผยกับสื่อมวลชนช่องยักษ์ใหญ่ เมื่อ 2 วันก่อนนี้


ขณะที่พระอาจารย์ช่วย จนฺทวณฺโณ อายุ 86 ปี อดีตกำนัน ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และอดีตกำนัน ที่ได้รับรางวัลผู้นำท้องถิ่นยอดเยี่ยม “ แหนบทองคำ ” 3 ปีในปี พ.ศ. 2526,2532 และ 2535  กล่าวว่า วัดเขาพระทอง ส่วนใหญ่จะเป็นวัดร้างมากกว่ามีพระจำพรรษา แต่มีหลวงพ่อองค์ใหญ่ และพระพุทธรูปประดิษฐานเรียงรายอยู่ริมเชิงเขาทางทิศตะวันออกมีมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว ส่วนพระพุทธรูปโบราณขนาดต่าง ๆ ที่อยู่ภายในถ้ำในที่อยู่ในละแวกนี้มีจำนวนมาก โดยเฉพาะเขาพระทอง เขาสลักได เขาลำปะ มีคนพบตามซอกหินและขุดพบในถ้ำจำนวนมาก แต่สมัยนั้นไม่มีราคาใด ๆ ตอนที่อาตมาอายุ 17 - 18 ปี อาของอาตมา พบพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ ในถ้ำ และนำมามาล้างนับร้อยองค์ อาตมาตั้งเรียงรายหน้าระเบียงบ้าน จนมีคนขอบูชาคนละองค์สององค์จนหมด

“หลังจากนั้น 1 - 2 ปี มีคนวงการเซียนพระ เข้าในพื้นที่เสาะหาพระพุทธรูปโบราณจากถ้ำเขาพระทอง เขาสลักได และเขาลำปะ โดยให้ราคาทุกขนาดองค์ละ 1,000 บาท จนมีชาวบ้านออกไปขัดหรือเสาะหาพระพุทธรูป มาขายกันจำนวนมาก บางส่วนเก็บไว้ในครอบครอง แต่ส่วนใหญ่คนที่ครอบครองนั้น ครอบครัวมีอันเป็นไป เป็นบ้าบ้าง วิกลจริตบ้าง อัมพฤกษ์ อัมพาตบ้าง เสียชีวิตอย่างปริศนาบ้าง จนเชื่อว่า เกิดจากอาถรรพ์พระพุทธรูปที่ครอบครอง จึงแห่นำไปคืนกลับไว้ที่เดิม


คำที่เกี่ยวข้อง : #แม่เฒ่าวัย 73   #พระพุทธรูปทองคำ  









©2018 CK News. All rights reserved.