อดีตรองอธิการมธ.วิเคราะห์ปรากฏการณ์ "ร้านน้ำพริกนิตยา"


24 ก.ย. 2564, 09:16

อดีตรองอธิการมธ.วิเคราะห์ปรากฏการณ์ "ร้านน้ำพริกนิตยา"




24 กันยายน 2564 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้...

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เกิดขึ้นทุกครั้ง ครั้งนี้เกิดขึ้นกับ ร้านน้ำพริกนิตยา ซึ่งผมเป็นแฟนร้านนี้มานาน เพราะเครื่องแกงของเขาเยี่ยมจริง ที่เด็ดมากคือ มันกุ้ง คลุกข้าวกับพริกขี้หนูซอย หอมซอย บีบมะนาวหน่อย รับรองว่าคดข้าวกันขอดหม้อเลยทีเดียว



แม้จะเป็นแฟนร้านน้ำพริกนิตยาอยู่แล้ว แต่ระยะหลังๆเหมือนกับลืมๆร้านนี้ไป ปกติแม้ในช่วงโควิดระบาด ผมจะไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ประมาณเดือนละครั้ง ไปธุระบ้าง ไปซื้อเมล็ดกาแฟที่ศูนย์หนังสือบ้าง ขากลับก็อดที่จะแวะบางลำพูไม่ได้ แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทุกครั้งที่แวะบางลำพูกลับไม่ได้นึกถึงร้านน้ำพริกนิตยาเลย จนกระทั่งได้ดูคลิปที่แชร์กันแทบทุกกลุ่มไลน์ ทำให้คิดถึงมันกุ้งคลุกข้าวของร้านน้ำพริกนิตยาขึ้นมาทันที

เมื่อเช้าต้องไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ครั้งนี้เลยตั้งใจว่าขากลับจะแวะร้านน้ำพริกนิตยา ซื้อมันกุ้งของชอบ เมื่อไปถึงหน้าร้านก็เป็นไปตามคาด เห็นคนต่อคิวเพื่อจ่ายเงินยาวเกือบออกมานอกร้าน น้ำพริกตาแดงหมด สินค้าหลายอย่างหมด มันกุ้งเหลือถุงเล็ก 3 ถุง เลยคว้ามาทั้ง 3 ถุง นอกนั้นก็แทบไม่ได้ซื้ออะไรมาก เพราะคนแน่นร้านไปหมด


กลับถึงบ้านเข้าไปดูที่ fb ใน page ของร้านน้ำพริกนิตยา ปรากฏว่ามีคนติดตามถึง 70,642 คน จากเดิมที่มีคนบอกว่ามีคนติดตามประมาณ 5 พันกว่าเท่านั้น เพียงชั่วข้ามคืนคนติดตามมากถึงกว่า 7 หมื่นคน

ปรากฏการณ์ของร้านน้ำพริกนิตยา ไม่ต่างจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ศรีพันวา ห่อหมกคุณแม่คุณม้า อรนภา ขนมเปี๊ยป๋าเทพ และอีกหลายๆธุรกิจ ที่ถูกกลุ่ม 3 นิ้ว หรือเสื้อแดงโจมตี เรียกร้องให้แบน และปรามาสว่าจะต้องเจ๊ง 

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น พวก 3 นิ้ว พยายามจะอธิบายว่า เป็นเพราะพวกสลิ่มด้วยกันช่วยกันตอบโต้ ซึ่งก็คงมีบ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ใช่ส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเพราะทุกครั้งที่ธุรกิจใดถูกกลุ่ม 3 นิ้วโจมตี จะเป็นข่าว และมีการรุมถล่มกันมาก แชร์กันมาก คนที่ไม่เคยรู้จักก็ได้รู้จัก และอยากไปลอง คนที่รู้จักอยู่แล้วแต่ลืมนึกถึงอย่างผมก็ได้นึกถึงและกลับไปรำลึกกันใหม่

ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ที่มีใจเป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นใครหรือกลุ่มใดก็ได้ เขารู้สึกว่า ธุรกิจเหล่านี้ถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม เพราะพฤติกรรมของกลุ่มเสื้อแดง และกลุ่ม 3 นิ้ว ไม่ได้โจมตีธุรกิจเพราะธุรกิจนั้นทำอะไรที่ขัดต่อหลักจริยธรรม หรือทำอะไรที่เป็นผลเสียต่อส่วนรวม แต่โจมตีเพราะไม่พอใจ ไม่ถูกใจเป็นส่วนตัว หรือไม่ตรงกับความเชื่อของตัวเอง บางครั้งไม่พอใจลูก ก็ไปเล่นงานธุรกิจของแม่เขา หรือของครอบครัวเขา ฟาดหัว ฟาดหาง ออกฤทธิ์ออกเดช พวกแนวร่วมก็จะออกมาช่วยโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคาย แช่งให้ธุรกิจเขาล้มบ้าง เรียกร้องให้แบนบ้าง ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นได้รับความเห็นใจจากผู้ที่มีใจเป็นธรรม เขาจึงออกมาช่วยปกป้อง ช่วยสนับสนุนธุรกิจที่เขารู้สึกว่ากำลังถูกรังแก นี่จึงเป็นสาเหตุที่สำคัญ

ที่น่าแปลกคือ ปรากฏการณ์ทำนองนี้ในอดีตไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่แน่ใจว่าที่เกิดขึ้นในยุคนี้ เพราะสื่อสมัยใหม่ที่ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเองที่จะแสดงอะไรก็ได้ต่อสังคม หรือเป็นเพราะพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ที่เราเรียกว่า "tribalism" หรือเป็นเพราะทั้ง 2 สาเหตุ

จะอย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้รังแต่จะทำให้ความแตกแยกระหว่างคนไทยกันเอง ร้าวลึกขึ้นทุกวัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป วันหนึ่งจะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรง เลือดตกยางออก ซึ่งวันนี้ก็ใกล้จุดนั้นมากขึ้นทุกทีแล้ว ก็ได้แต่ขอให้ทุกคนนำหลักพุทธศาสนามาใช้กันให้ได้ทุกคน นั่นคือ การเจริญสติ ก่อนจะทำอะไรก็ตามก็ขอให้มีสติ ให้รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลที่เกิดขึ้นตามมาคืออะไร หากทำได้ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

สตินะครับ ไม่ใช่ "สภาพ"

 


คำที่เกี่ยวข้อง : #ร้านน้ำพริกนิตยา  









©2018 CK News. All rights reserved.