"กรมสรรพสามิต" แจงมาตรการปราบปรามบุหรี่หนีภาษี เผย ! ปีงบประมาณ 64 จับกุมแล้วกว่า 6 พันคดี


9 ก.ย. 2564, 11:40

"กรมสรรพสามิต" แจงมาตรการปราบปรามบุหรี่หนีภาษี เผย ! ปีงบประมาณ 64 จับกุมแล้วกว่า 6 พันคดี




วันที่ 9 ก.ย. 64 นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จากการที่บุหรี่ในประเทศปรับราคาสูงขึ้นและสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจึงหันไปสูบบุหรี่ที่มีราคาถูกหรือยาเส้นม้วนเอง สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันไปสูบบุหรี่หนีภาษีหรือบุหรี่เถื่อนซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า ส่งผลให้เกิดการลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีเส้นทางการค้าบุหรี่หนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องผ่านทางด่านชายแดน เช่น สระแก้ว ปัตตานี จันทบุรี สตูล สงขลาและจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า



ดังนั้นกรมสรรพสามิตจึงได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษีที่เกิดขึ้น จึงได้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามบุหรี่หนีภาษี ดังนี้

1.จัดทำแผนประจำปีอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการป้องกันและปราบปราบบุหรี่เถื่อน และทำแผนเฉพาะกิจในการปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบปราบปรามบริเวณชายแดน พร้อมให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติงานของสำนักงานสรรพสามิตภาคและสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

2.จัดตั้งศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ เพื่อเฝ้าระวังและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดและผู้ต้องสงสัยทางอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์

3.บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามบุหรี่หนีภาษี เช่น กรมศุลกากร ตำรวจ ทหาร เพื่อสกัดกั้นการลักลอบบุหรี่หนีภาษี


ทั้งนี้จากมาตรการดังกล่าว ทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสินค้าบุหรี่ผิดกฎหมายได้ทั้งสิ้น จำนวน 6,252 คดี ของกลางจำนวน 1,404,782 ซอง เปรียบเทียบปรับและประมาณการค่าปรับเป็นเงินรวม 1,248,452,588.22 บาท โดยเป็นการจับกุมผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย จำนวน 1,792 คดี ของกลางจำนวน 815,981 ซอง เปรียบเทียบปรับและประมาณการค่าปรับเป็นเงินรวม 1,063,263,273.57 บาท

“กรมสรรพสามิตจะติดตาม ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต”











©2018 CK News. All rights reserved.