เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)มอบหมายให้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงตอบคำถามต่อสื่อมวลชน ถึงความพร้อมในการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามมาตร 151 ของรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นว่า นายกฯกล่าวเสมอให้ ครม. ที่อยู่ในรายชื่อที่จะถูกอภิปรายได้เตรียมความพร้อม และนายกรัฐมนตรีระบุว่าถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบในมุมต่างๆ ในการทำงานของรัฐบาล
รายงานข่าว แจ้งว่า ช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯและรัฐมนตรีรวม 6 คน “โดยขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง สู้ด้วยข้อเท็จจริง เราตั้งใจทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล และฝาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำความเข้าใจข้อมูล โดยขอให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ด้วย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงข้อกล่าวหาที่อยู่ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตนเอง ที่มีเนื้อหารุนแรงว่า ผมว่าแรงไปไหมในหัวข้ออภิปราย มีใครเคยมีไหมแบบนี้”
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาระบุว่า ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านมี 6 พรรค ถ้าตัดสินด้วยคนใดคนหนึ่งจะเกิดปัญหา จึงใช้กระบวนการหารือร่วมกัน และตัดสินใจร่วมกัน ที่เรียกว่ากระบวนการแบบกลุ่ม เราไม่ได้ตัดเฉพาะ พล.อ.ประวิตร แต่ตัดนายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้วย การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านให้ความสำคัญไปที่เรื่องเศรษฐกิจ และโควิด-19 รายชื่อต่างๆ ที่ปรากฏว่าไม่ได้ถูกนำมาอภิปรายล้วนอยู่ในข้อจำกัดนี้
©2018 CK News. All rights reserved.