นายกฯ ลั่นกลาง ครม. ถ้า "ไฟเซอร์หาย" ผมไม่เอาไว้แน่


4 ส.ค. 2564, 09:45

นายกฯ ลั่นกลาง ครม. ถ้า "ไฟเซอร์หาย" ผมไม่เอาไว้แน่




รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กล่าวถึงปัญหาเรื่องการเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต เพื่อมายัง กทม. เพื่อขึ้นเครื่องกลับประเทศ โดยต้องนั่งรถบัสมา กทม. เนื่องจากสนามบินใน กทม.ปิด จึงสั่งให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางอำนวยความสะดวก โดยอาจจะเปิดสนามบินเป็นกรณีพิเศษ หรือให้ใช้สนามบินอู่ตะเภาแทน



นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้หยิบยกปัญหามาตรการผ่อนปรนที่ให้ร้านอาหารให้ห้างสรรพสินค้าขายอาหารแบบเดลิเวอรี่ได้ แต่ห้ามจำหน่ายหน้าร้าน ทั้งที่ประชาชนบางส่วนสามารถเดินทางไปจับจ่ายสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าได้ โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. ชี้แจงว่า

การจำหน่ายอาหารเดลิเวอรี่นั้น แม้จะเป็นพนักงานส่งอาหารก็ไม่สามารถเดินไปรับอาหารหน้าร้านค้าได้ ต้องไปรับอาหารจุดอื่น จึงจะพิจารณาให้มีการเพิ่มจุดรอรับอาหารสำหรับคนที่จะมาซื้ออาหารให้เป็นกิจจะลักษณะที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ตรงนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอ โดย ศปก.ศบค.จะไปพิจารณารายละเอียดเรื่องแนวทางดังกล่าวอีกครั้ง


ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ยังปรารภถึงเรื่องการกระจายวัคซีน โดยขอให้มีการกระจายวัคซีนไปให้ 25 จุดฉีดวัคซีน ในกทม. ประมาณจุดละ 1 พันโดสต่อวัน เพื่อให้มีความเหมาะสมและครอบคลุม ขณะเดียวกัน ยังพูดถึงเรื่องปริมาณวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมอบจากสหรัฐอเมริกา ที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตว่ายอดน้อยกว่าข้อมูลที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ตัวเลขที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้คือ ตัวเลขกลมๆ

แต่เมื่อได้รับมาก็เป็นตัวเลขที่ตรงกับที่สถานทูตสหรัฐฯยืนยัน “ผมก็ตรวจสอบกับสถานทูตสหรัฐฯมาแล้ว ตัวเลขก็ตรงกัน ถ้ามันหาย ผมไม่เอาไว้แน่” นอกจากนี้ นายกฯ ยังสั่งการให้สำรวจว่าบุคลากรด่านหน้ามีใครบ้าง ให้แยกออกมา เพื่อจะได้พิจารณาค่าตอบแทนให้เป็นพิเศษ เพราะต้องดูแลเยียวยาคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนปิดประชุม นายกฯได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกันแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า “ขอบคุณทุกคนที่ทำงานด้วยความเสียสละและอดทน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเขา สนับสนุน ทั้งเครื่องมือ เพื่อให้มีความพร้อม” รวมถึงกล่าวกับ ครม. ว่า “เราต้องมีความรักสามัคคีกัน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ”

สำหรับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น นายกฯได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงไปติดตามการปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค.ได้ประกาศข้อกำหนดออกไป หากมีการฝ่าฝืนกระทำผิดก็ให้ลงโทษ เช่น เรื่องฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ขณะเดียวกัน ให้ไปดูกรณีบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดหนึ่ง แต่เข้ามาทำงานอีกจังหวัดหนึ่งซึ่งขณะนี้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) แล้วว่าจะช่วยเหลือเยียวยาเขาอย่างไร


คำที่เกี่ยวข้อง : #นายกรัฐมนตรี  









©2018 CK News. All rights reserved.