สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โรงพยาบาล ฮิวสตัน เมโธดิสต์ ในรัฐเทกซัสยอมรับว่า มีเจ้าหน้าที่กว่า 150 คน ถูกไล่ออกหรือสมัครใจลาออกเอง เนื่องจากปฏิเสธเงื่อนไขของทางโรงพยาบาลที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อที่จะปฏิบัติงานต่อไปได้
โดยทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทราบว่า พนักจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในวันที่ 7 มิ.ย. มิเช่นนั้นจะต้องถูกพักงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า มีลูกจ้างของโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกสั่งพักงานไปเกือบ 200 คน ขณะที่หลายคนออกมาประท้วงแสดงความไม่พอใจที่โรงพยาบาลบังคับฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ เมื่อเดือน พ.ค. ลูกจ้าง 117 คนได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องโรงพยาบาลฮิวสตันเมโธดิสต์ โดยกล่าวหาทางโรงพยาบาลว่า "บังคับให้ลูกจ้างต้องเป็นหนูทดลองวัคซีน เพื่อที่จะได้รับการว่าจ้างต่อไป"
อย่างไรก็ตาม ศาลไม่รับฟ้องคดีนี้ โดยให้เหตุผลว่าการฉีดวัคซีนไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และกฎหมายรัฐเทกซัสให้การปกป้องเฉพาะในกรณีที่ลูกจ้างถูกนายจ้างบังคับให้ก่ออาชญากรรม
รายงานระบุว่า พนักงานโรงพยาบาลที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนนั้นต่างมองว่า มีความเสี่ยงสูงเกินไป และมีอาการข้างเคียงรุนแรงไม่ว่าเป็น ปวดศีรษะรุนแรง ลิ่มเลือดอุดตัน แม้กระทั่งเสียชีวิต
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 65.4% ที่ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์, โมเดอร์นา หรือจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ผลสำรวจพบว่า บุคลากรด้านสาธารณสุขยังคงเป็นกลุ่มประชากรที่มีความลังเลสงสัยในประสิทธิภาพของวัคซีนมากที่สุด
©2018 CK News. All rights reserved.