นายกฯ สั่งช่วยเหลือ "แรงงานไทย" โดนระเบิดเสียชีวิต - บาดเจ็บ ในฉนวนกาซา


19 พ.ค. 2564, 07:39

นายกฯ สั่งช่วยเหลือ "แรงงานไทย" โดนระเบิดเสียชีวิต - บาดเจ็บ ในฉนวนกาซา




จากกรณีที่แรงงานไทย โดนลูกหลงจากจรวดที่ถูกยิงออกมาจากฉนวนกาซา เสียชีวิต 2 ราย  เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบในอิสราเอลเพิ่มขึ้นเป็น 12 ราย

ทางด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิตจากเหตุระเบิดว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 14.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น น.ส. พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รับแจ้งจากนายอียาล ซิโซ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลว่า มีคนงานไทย 2 รายเสียชีวิต บาดเจ็บ 8 ราย โดย 2 รายจาก 8 รายบาดเจ็บสาหัส จากเหตุการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาสที่นิคมเกษตรกรรม (โมชาฟ) Ohad ในเมือง Eshkol ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 14 กิโลเมตร โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่แรงงานกลุ่มดังกล่าวทำงานอยู่ในห้องบรรจุผลิตผลทางการเกษตร ในชั้นนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟกำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับรายชื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และจะติดตามดูแลคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด



ล่าสุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล - ปาเลสไตน์ จากการโจมตีโดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิต และมีความห่วงใยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด และสั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งประสานความช่วยเหลือให้ญาติพี่น้องและครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทราบ รวมทั้งให้การช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายในทันที 


สำหรับการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทางด้านสำนักงานแรงงาน (สนร.) โดยฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เฃจะเดินทางเข้าไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บและดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ให้ได้รับเงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ รวมทั้งได้สั่งการให้สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ประสานให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานลงพื้นที่ภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไปเยี่ยมครอบครัวและญาติ เพื่อให้กำลังใจ และแจ้งสิทธิประโยชน์การดูแลคุ้มครองตามกฎหมายแก่ครอบครัวและทายาททราบต่อไป
 











©2018 CK News. All rights reserved.