วันที่ 22 ธ.ค. 2563 จากกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจ.ประจวบคีรีขันธ์ และคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ออกคำสั่งให้ยุติการนำเข้าและส่งออกสินค้าจากชายแดนไทย-เมียนมา ที่ช่องสิงขร ตั้งแต่ เวลา 12.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. เป็นต้นไป
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ โควิด-19 เนื่องจากสินค้าส่วนหนึ่ง เดินทางไปยังจ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อ โดยตลาดทะเลไทย หยุดตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 2564 ขณะที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปิดตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. โดยไม่มีกำหนด ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถวางแผนการดำเนินธุรกิจได้
นายวิชพล พรรณรัตน์ ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย-เมียนมา กล่าวว่า จากมาตรการปิดชายแดน ผู้ประกอบทุกรายเข้าใจและยินดีให้ความร่วมมือ เนื่องจากตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ปิดเป็นเวลา 10 วัน ขณะที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปิดโดยไม่มีกำหนด
ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถวางแผนการทำงานได้ เพราะการขนส่งสินค้า และต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน เช่น วัตถุดิบที่มาจากทะเลฝั่งอันดามันกว่าเรือจะออกทำการประมง นำเรือเข้าฝั่ง บรรจุสินค้า และเดินทางมายังชายแดนไทยที่ด่านสิงขร
นายวิชพล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสวมหน้ากากอนามัย บางแห่งให้สวมชุดป้องกันส่วนบุคคลหรือ PPE ที่สำคัญสินค้าจากช่องสิงขร ไปส่งที่ตลาดทะเลไทยมีเพียงร้อยละ 10 ส่วนที่เหลือกระจายไปจังหวัดอื่น ๆ
ขณะที่ด่านสิงขรได้เปรียบกว่าการนำเข้าผ่าน จ.ระนอง จ.กาญจนบุรี และจ.ตาก เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกจาก จ.มะริด ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ทำให้มีปริมาณมูลค่าการนำเข้า ส่งออกมากกว่า 3 เท่า เมื่อปี 2562 มูลค่าการนำเข้าส่งออก 1,200 ล้านบาท
ส่วนปี 2563 ตั้งแต่มีโควิด มูลค่าการค้าลดลงกว่าร้อยละ 60 หากปิดชายแดนไม่มีกำหนด จะกระทบผู้ประกอบการและแรงงานเสียหายกว่าเดือนละกว่า 100 ล้านบาท
©2018 CK News. All rights reserved.