"เครือข่ายงดเหล้า" อาลัย “หมอมงคล” สานต่อเจตนารมย์สร้างสังคมปลอดภัยจากน้ำเมา


15 ธ.ค. 2563, 09:27

"เครือข่ายงดเหล้า" อาลัย “หมอมงคล” สานต่อเจตนารมย์สร้างสังคมปลอดภัยจากน้ำเมา




เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อดีตปลัด สธ. และ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญ ที่ผ่านมาอาจารย์หมอมงคล ขณะนั้นรับหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับเครือข่ายฯผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ให้สำเร็จในรัฐบาลนี้ โดยช่วงปีพ.ศ.2548-2549 เป็นช่วงเวลาที่มีการเริ่มต้นยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นในประเทศไทย ด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่ายโดยนายกรัฐมนตรี ได้รวมปฏิญาณในฐานะประธาน ต่อหน้าหลวงพ่อปัญญาฯ ซึ่งมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ถือเป็นการปักหมุดที่สำคัญยิ่งในฝ่ายรณรงค์ลดผลกระทบจากน้ำเมา



เภสัชกรสงกรานต์ กล่าวถึงเบื้องหลังการผลักดันกฎหมายควบคุมน้ำเมา ว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อาจารย์หมอมงคล เร่งรัดการเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ผ่านครม. เพื่อนำสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ(สนช.) โดยเร็ว ถือว่าเป็น พรบ.ฉบับแรกๆ ของสนช.ก็ว่าได้ ในกระบวนการพิจารณา พรบ.ฉบับนี้ กระบวนการของฝั่งธุรกิจ พยายามขัดขวางในทุกขั้นตอน จนพลตรี จำลอง ศรีเมือง สนช.ท่านหนึ่ง ออกมาให้ข่าวว่า มีคนพยายามล้ม พรบ.ฯนี้ สอดคล้องกับนักข่าวอาวุโสท่านหนึ่งให้ข้อมูลว่า พรบ.ฉบับนี้ ไม่แท้ง ก็พิการ

“ถ้าไม่ได้อาจารย์หมอมงคล ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ที่พยายามบริหารจัดการให้กรรมาธิการฯ ซึ่งถูกล็อบบี้จากฝ่ายธุรกิจและผู้ที่เสียประโยชน์ ท่านต้องคอยชี้แจง ใน สนช. ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เพื่อให้ สนช.ผ่านพรบ.ฉบับนี้ และให้เลขานุการรัฐมนตรี คือ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ประสานกับทุกฝ่าย เพื่อหาทางให้ พรบ.ฯ ฉบับนี้ผ่าน สนช. ให้ได้ ซึ่งมีคนพยายามยื้อ เตะถ่วงหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ไม่ทันช่วงเวลาของการพิจารณาในสภา และความพยายามของฝ่ายต้านก็เกือบประสบความสำเร็จ กฎหมายฉบับนี้เกือบไม่ทันเวลา แต่ด้วยความมุ่งมั่นและกลยุทธ์ การผ่อนสั้นผ่อนยาวอย่างแยบยล และคำถามสำคัญที่ภาคประชาชนต้องร่วมในการตัดสินใจคือการลดทอนความเข้มของการห้ามโฆษณาโดยสิ้นเชิง เป็นการห้ามโฆษณาอย่างมีเงื่อนไข เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาได้ ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าต้องยอมถอยเพื่อเอาภาพใหญ่เอาไว้ จนในที่สุด พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ผ่าน สนช.เป็นฉบับสุดท้ายของ สนช. และประกาศใช้ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 ถือว่าเป็นผลงานสำคัญของอาจารย์หมอมงคล ที่ผ่าฟันต่อสู้กับผลประโยชน์มหาศาลจากน้ำเมา ที่พยายามขัดขวาง พรบ.นี้ แต่ท่านก็สู้จนถึงที่สุด ประเทศไทยจึงมีเครื่องมือสำคัญ ที่สังคมไทยใช้ในการลดปัญหาจากน้ำเมาได้ดีพอสมควร” เภสัชกรสงกรานต์ กล่าว

ด้านนายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของประเทศชาติ และภาคประชาชน ที่ทำงานประเด็นสุขภาพ รวมถึงประเด็นการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงที่ผลักดันกฎหมายนี้ คุณหมอมงคลต้องเจอกับแรงกดดันอย่างหนักจากฝ่ายธุรกิจ ผู้ประกอบการ กลุ่มที่เสียประโยชน์ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวอย่างหนักทั้งในสภาและนอกสภา รวมไปถึงในกรรมาธิการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ด้วยที่มีหลายคนมีจุดยืนเข้าข้างฝ่ายธุรกิจอย่างชัดเจน แต่ด้วยความเด็ดเดี่ยวและตั้งใจสูงของคุณหมอมงคล ตลอดจนคุณหมออีกหลายๆท่านในช่วงนั้นที่ช่วยกันขับเคี่ยวจนกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภามาได้ชนิดที่เรียกได้ว่าเส้นยาแดงผ่าแปด


“ทุกครั้งที่เครือข่ายฯได้มีโอกาสได้พบปะหารือและเชิญคุณหมอมาพบกับพี่น้องเครือข่าย เราได้ยินเสียงตอบรับที่เต็มไปด้วยความเมตตาอยู่เสมอ และหลายครั้งที่คุณหมอต้องเลื่อนภารกิจงานบางอย่างเพื่อมาพบปะกับพวกเรา สิ่งหนึ่งที่คุณหมอพูดกับพวกเราทุกครั้ง คือการยืนยันว่า การขับเคลื่อนของประชาชนมีส่วนสำคัญมากที่ช่วยให้ผ่านกฎหมายออกมาได้ คุณหมอถึงขนาดให้ตัวเลขว่าเกินครึ่งของความสำเร็จนั้นมาจากภาคประชาชน คนเล็กคนน้อย ผู้ได้รับผลกระทบ องค์กรต่างๆได้ร่วมกันทำงานอย่างแข็งขัน และสอดคล้องกับตัวเลขจำนวนประชาชนมากกว่า13 ล้านคนที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ และสิ่งที่คุณหมอย้ำกับพวกเราอีกเรื่องคือการทำให้กฎหมายมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง การช่วยกันเฝ้าระวังไม่ทำให้กฎหมายฉบับนี้เป็นแค่เสือกระดาษ” นายคำรณ กล่าว

นายคำรณ ระบุด้วยว่า วันนี้หัวขบวนใหญ่คนสำคัญของงานสร้างเสริมสุขภาพประชาชน ได้จากเราไปแล้ว คงเหลือไว้แต่ความทรงจำอันงดงาม ความดี ความจริง ที่ท่านได้สร้างไว้กับประเทศชาติและประชาชน ที่จะมีผู้คนจำนวนมากรวมถึงเครือข่ายที่ทำงานด้านลดผลกระทบจากน้ำเมา จะสานต่อภารกิจและเดินตามที่ท่านได้ทำทางไว้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน


คำที่เกี่ยวข้อง : #หมอมงค  









©2018 CK News. All rights reserved.