“นิพนธ์" แจ้งแล้ว ปมซื้อรถซ่อมอเนกประสงค์ ยันไม่ได้ทุจริต แต่รักษาผลประโยชน์รัฐ


2 ต.ค. 2563, 09:16

“นิพนธ์" แจ้งแล้ว ปมซื้อรถซ่อมอเนกประสงค์ ยันไม่ได้ทุจริต แต่รักษาผลประโยชน์รัฐ




เมื่อวันที่ 2 ต.ค.นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีกล่าวหานายนิพนธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) สงขลา มีการละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิได้อนุมัติเงินงบประมาณเบิกจ่ายเงินให้บริษัทแก่บริษัทเอกชน เป็นเงินทั้งสิ้น 50,850,000 บาท ว่า กรณีดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 10 เม.ย.56 ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา มีการประกาศจัดหารถซ่อมทาง วงเงิน 52 ล้านบาท และในการประมูลดังกล่าวมีผู้ยื่นประมูล 2 ราย ได้แก่ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ยื่นประมูล 50,850,000 บาท และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ยื่นประมูล 50,900,000 บาท ผลปรากฏว่า บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคาที่ต่ำกว่า 50,000 บาท โดยในขณะนั้นได้รับข้อมูลร้องเรียนว่าทั้ง 2 บริษัทมีการทุจริตและต่อมายังตรวจสอบได้ว่าทั้งสองบริษัทมีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อยื่นประมูลงานอีกด้วย



พนธ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 31 พ.ค.56 ก่อนตนรับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา นายก อบจ.สงขลาในขณะนั้น ได้ลงนามในสัญญาซื้อรถซ่อมทางเอนกประสงค์ กับ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยกำหนดส่งมอบรถภายใน 180 วัน และวันที่ 7 มิ.ย.56 ก่อนที่ตนรับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา อีกเช่นกัน หลังจากลงนามสัญญาซื้อรถซ่อมทางเอนกประสงค์ได้เพียง 7 วัน นายกอบจ.สงขลา ในขณะนั้น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และวันที่ 4 ส.ค.56 มีการจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา ขึ้นใหม่ ผลปรากฏว่า ตนได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา คนใหม่และเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 28 ส.ค.56 ในวันที่ 8 ต.ค.56 บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ส่งมอบรถซ่อมทางเอนกประสงค์ ตามสัญญากับ อบจ.สงขลา โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ อบจ.สงขลา ทำการทดสอบและตรวจรับรถซ่อมทางเอนกประสงค์ในวันที่ 9 ต.ค.56 ซึ่งการทดสอบนั้นเป็นการทดสอบระบบต่างๆของรถว่าใช้งานได้จริงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และใช้ระยะเวลากว่า 90 วัน กองช่างจึงได้รายงานผลการทดสอบ ในวันที่ 9 ม.ค.57
“ทั้งนี้ในวันที่ 21 พ.ย.56 ระหว่างที่ผลการทดสอบตรวจรับรถยังไม่เสร็จสิ้นบริษัท ไทยวินเนอร์ ทรัค จำกัด ได้มีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 ป.ป.ช และ ผมในฐานะนายก อบจ.สงขลา ถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อว่ามีการฮั้วประมูลและล็อกสเปค ทำให้ผมที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา คนใหม่ และไม่ทราบถึงรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมทางเอนกประสงค์ดังกล่าวมาก่อนและเป็นการดำเนินการก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่งอีกด้วย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการจัดซื้อรถดังกล่าวที่ผ่านมานั้นถูกต้องตามระเบียบและตามข้อร้องเรียนหรือไม่เพื่อไม่ให้ทางราชการเสียหายและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง อบจ.สงขลาก็ได้มีการจัดซื้อรถดังกล่าวไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 1 คัน และครั้งนี้เป็นการจัดซื้ออีกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปี อีกจำนวน 2คัน รวมเป็น 4 คัน”นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 ม.ค.57 รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มีหนังสือถึงตนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ บริษัท ไทยวินเนอร์ ทรัค จำกัด ได้ทำการร้องเรียนปัญหาดังกล่าว โดยตนในฐานะที่บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและตามที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายร้องเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการ และในวันที่ 5 มิ.ย.57 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลามีหนังสือถึง อบจ.สงขลา ขอให้จ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่มีผู้ร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส ในการประกวดราคาซื้อรถครั้งนี้ด้วย


“ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าเมื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการยังไม่เสร็จสิ้นดังนั้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทางราชการและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายควรรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการชำระเงินให้แก่ บริษัท พลวิศว์ เพค พลัส จำกัด และหากอนุมัติให้จ่ายเงินไป โดยที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกวดราคาและจัดซื้อยังไม่เสร็จสิ้น หากภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าการจัดซื้อไม่ชอบ และการประมูลจัดซื้อตกเป็นโมฆะ จะทำให้รัฐเสียหายเป็นเงินจำนวนมากยากที่จะเรียกเงินคืนเพราะ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้งหากอนุมัติให้จ่ายเงินไป ผมอาจถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้ ดังนั้นเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายและรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ การจ่ายเงินควรดำเนินการภายหลังผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการประมูลจัดซื้อได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่เสียก่อน”นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 25 ก.ค.57 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงว่า การประมูลซื้อไม่เป็นไปตามคุณลักษณะเฉพาะตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลากำหนด การที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีความเห็นว่า การประกวดราคาและการจัดซื้อรถ มีเจตนาไม่สุจริต เป็นการสมยอมกันในการเสนอราคาทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างไม่เป็นธรรมนั้น ผลก็คือการประกวดราคาและการจัดซื้อรถจึงตกเป็นโมฆะ และ อบจ.สงขลา ได้นำผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานให้ศาลปกครองพิจารณาแล้ว อีกทั้ง อบจ.สงขลาได้นำผลรายงานการสอบสวนดังกล่าวให้ จังหวัดสงขลา ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 และ ป.ป.ช.ทราบแล้วนอกจากนี้ ยังปรากฎหลักฐานจากต่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออสเตรเลีย หลักฐานจากนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เป็นต้น ที่รับรองไว้แล้วว่า บริษัทคู่เทียบเอกชนในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ดังกล่าว ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง และจากกรณีปลอมแปลงเอกสารดังกล่าวองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ก็ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาแล้ว และได้มีการส่งหลักฐานบางส่วนให้แก่ ป.ป.ช. ไปแล้วระหว่างการไต่สวน

“ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีการทุจริต และขอรอให้ ป.ป.ช.แถลงอย่างเป็นทางการก่อน ผมจะเปิดแถลงรายละเอียดอีกครั้ง และจะนำเอกสารทั้งหมดที่ไก้มาจากต่างประเทศ มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนด้วย และผมพร้อมสู้คดีให้ถึงที่สุด”นายนิพนธ์ กล่าว


คำที่เกี่ยวข้อง : #นิพนธ์   #ไม่ได้ทุจริต  









©2018 CK News. All rights reserved.