แพทย์ดังโพสต์น่าคิด เลื่อนวันสงกรานต์ไม่ช่วยคลี่คลายโควิด-19 ถ้าไม่มีมาตรการปิดเมือง 14-21 วัน


16 มี.ค. 2563, 15:45

แพทย์ดังโพสต์น่าคิด เลื่อนวันสงกรานต์ไม่ช่วยคลี่คลายโควิด-19 ถ้าไม่มีมาตรการปิดเมือง 14-21 วัน




เป็นอีกครั้งที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ได้ออกเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งคำถาม และให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ อาทิ การปิดสนามมวย, สถานเริงรมย์ หรือแม้กระทั่งการเลื่อนวันสงกรานต์ไปเป็นเดือนอื่น จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้จริง ๆ หรือ ?  

โดยได้โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า การปิดสนามมวยสถานเริงรมย์ 14 วัน ช่วยได้จริงหรือ? การปิดดังกล่าว เป็นเพียงการชะลอตัวเลข แต่จะสัมฤทธิ์ผลได้นั้นต้องมีกระบวนการอย่างอื่นทำควบคู่ไปด้วย 

ทั้งนี้ โดยที่มาตรการสูงสุดที่แท้จริงคือปิดเมือง ปิดบ้าน อย่างน้อย 14-21วัน ทำไม 14 - 21 วัน ? อย่างน้อยในช่วง 14 วันนี้ คนที่อยู่ในระยะฟักตัวและมีอาการชัดเจนสามารถเก็บกักตัวได้เลย และรักษาช่วยชีวิต และในกลุ่มที่อาการน้อยมากจะแพร่เชื้อออกมาได้เฉลี่ย 20 วัน และหายเอง ในเมืองหนึ่ง ๆ ที่ปิด มีมาตราการอะไร ? ประชาชนทุกคน ออกจากบ้านน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นโดยใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างหนึ่งถึง 2 เมตร ทำธุระตามต้องการเสร็จกลับเข้าบ้าน หยุดสถานศึกษาไม่มีการประชุมใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ โดยผ่านระบบออนไลน์ 



คนที่ยังทำงานอยู่ออกจากบ้านคือคนที่ทำงานในระบบสาธารณะสำหรับเมือง ๆ นั้น และไม่ให้ทำงานทุกคน เพราะถ้าติดเชื้อทุกคนในองค์กรนั้น จะไม่เหลือใครมาทำงานสาธารณะ สาธารณูปโภค ระบบจะพินาศ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคณะรัฐมนตรีติดเชื้อหมดทุกคน เป็นต้น จะดีหรือ?

รถโดยสารสาธารณะจะต้องว่างที่สุดโดยให้ผู้โดยสารห่างกัน 1-2 เมตร

การเลื่อนวันสงกรานต์ไปเป็นเดือนอื่น ช่วยจริงหรือไม่? ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ถ้าไม่มีมาตรการปิดแต่ละเมืองปิดบ้าน 14 ถึง 21 วันมาก่อน เพราะกิจกรรมอื่นยังคงดำเนินอยู่มีคนทำงานเช่นเดิมรถโดยสารยังเต็มเหมือนเดิมทนทำงานในออฟฟิศ 

ปิดแต่กรุงเทพฯ เมืองเดียวช่วยได้จริงหรือ ? ถ้าคิดจะปิดกรุงเทพเมืองเดียวโดยดูจากจำนวนผู้ติดเชื้อว่าส่วนมากอยู่ที่กรุงเทพฯ อาจยืนอยู่บนสมมติฐานที่ เจอคนติดเชื้อในกรุงเทพฯ เยอะที่สุด แต่ทั้งนี้เป็นไปได้หรือ ที่เมืองอื่นไม่มีผู้ติดเชื้อ และกำลังแพร่เชื้ออยู่ ?












©2018 CK News. All rights reserved.