จากกรณีการเกิดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด 19 ได้แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศจีน ซึ่งทางรัฐบาลได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้ป่วยหายจากโรค และยับยังเชื้อโรคดังกล่าวไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีประชาชนจากทั่วโลกบางส่วนได้รับเชื้อโควิด 19 เช่นกัน จึงทำให้ประชาชนทั้งในประเทศไทยต่างตื่นตระหนกหวั่นกลัวเป็นโรคนี้ด้วย
ล่าสุด ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาค วิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Yong Poovorawon” ระบุ เกี่ยวกับ โรคโควิด 19 มาตรการในการป้องกัน คือ
มาตรการต่างๆ ที่จะกระทำ ในการป้องกัน จะต้องมีเหตุผล และความเหมาะสม
ทุกคนกลัวโรคโควิด 19 กลัวได้แต่จะต้อง ไม่ตื่นตระหนก
ทุกอย่างต้องมีเหตุและผล และความเหมาะสม
ขณะนี้ผู้ที่ไปประเทศที่มีการระบาดเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี กลับมาแล้ว นักเรียนจะมาขอใบรับรองแพทย์ ว่าไม่เป็น โรคโควิด 19 เพื่อจะได้ไปโรงเรียน ไม่เช่นนั้น ผู้ปกครองร่วมชั้นเรียน รวมทั้งโรงเรียนไม่ให้เข้าเรียน
เด็กไม่มีอาการอะไร จะขอใบรับรองแพทย์ และ จะขอตรวจเพื่อยืนยันว่าไม่เป็น
ในความเป็นจริง ถึงตรวจวันนี้ ไม่มีอาการ
ตรวจหาเชื้อโอกาสจะเจอ ยิ่งน้อยมาก และตรวจไปแล้วให้ผลลบ ก็ไม่ได้ยืนยันเลยว่า พรุ่งนี้จะไม่เป็น
ต้องเสียเงินค่าตรวจ และเพิ่มภาระงานของห้องปฏิบัติการ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จะต้องให้ความรู้ ในมาตรการต่าง ๆ ในการปฏิบัติตัว ป้องกันตัวเองไม่ให้ไปแพร่สู่ผู้อื่น
ถ้ามีอาการโรคทางเดินหายใจ เป็นหวัด คอเจ็บ มีไข้ ก็ไม่ควรไปโรงเรียน
ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจจะเหมาะสมกว่า
ทางโรงเรียน ก็ควรจะมีมาตรการในการคัดกรองที่เข้มงวด วัดไข้กันก็ไม่ว่า
สอนเรื่องสุขอนามัย การป้องกันตนเอง การล้างมือ การติดต่อของโรค จะดีกว่า
มีโรงเรียนหนึ่ง จะขอปิดโรงเรียน และให้เรียนที่บ้าน
ถ้าในขณะนี้ ยังอาจจะไม่เหมาะสม แต่ในอนาคตถ้ามีการระบาดมาก ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าปิดโรงเรียน เด็กนักเรียน ก็จะตามผู้ปกครองไปที่ทำงานไปในแหล่งชุมชนที่มีคนมาก
ก็อาจจะไม่ต่างกันกับอยู่โรงเรียน
การสอนนักเรียนในเรื่องการดูแลตนเอง การปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ความซื่อสัตย์
ถ้าเจ็บป่วยก็บอกตามความเป็นจริง ยังดีกว่าในการปิดโรงเรียนขณะนี้
มาตรการในการคัดกรองของโรงเรียน ถ้าทำอย่างเข้มงวด รวมทั้งระเบียบวินัยต่างๆ น่าจะดีกว่า
เพราะผมเองก็ไม่มั่นใจว่าถ้าปิดโรงเรียนแล้ว นักเรียนจะอยู่ที่บ้าน ไม่ไปที่ชุมชน ตามพ่อแม่ไปทำงาน
ความเสี่ยงก็จะไม่ต่างกับอยู่โรงเรียน ที่มีครู มีมาตรการแบบเคร่งครัด
ในภาวะแบบนี้ ถ้าทุกคนช่วยกัน ทำทุกอย่างแบบมีเหตุผล และตามความเหมาะสม
กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นที่ปรึกษาให้อยู่แล้ว และมีข้อมูลแบบฉับพลันอยู่แล้ว
ทุกคนกลัว ผมก็กลัว แต่จะต้องไม่ตื่นตระหนก ทำอย่างมีเหตุผล และเหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำ ของหน่วยงาน เช่นกระทรวงสาธารณสุข
เครดิต : เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
©2018 CK News. All rights reserved.