วันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การดูแลคนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่นทั้ง 138 คนนั้น ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่มีใครติดเชื้อ ส่วนผู้ที่กลับมาแล้วป่วย 4 ราย ก็ตรวจไม่พบเชื้อเช่นกัน โดยสุขภาพจิตทุกคนดี ไม่มีการจิตตก ซึ่งจะติดตามทั้งหมดจนครบ 14 วันคือ วันที่ 20 ก.พ. ก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนประชาชนทั่วไปยืนยันว่าการดูแลตนเอง ยังเป็นการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากไม่ซื้อก็สามารถทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือเองได้
นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากอดีตปลัดกระทรวงและอดีตอธิบดีกรมต่างๆ ของสธ. เพื่อมาร่วมในการช่วยเหลือในเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษา รมว.สธ. ด้านการแพทย์และสาธาณสุข เฉพาะเรื่องโรคปอดอักเสบติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มี นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ เป็นประธาน นพ.ธวัช สุนทราจารย์ นพ.โสภณ เมฆธน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข นพ.ไพจิตร วราชิต นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ นพ.ศุภมิตร ชุณสุทธิวัฒน์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล นพ.ยง ภู่วรวรรณ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ นพ.ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับกรณีอินโดนีเซียขอข้อมูลมาตรการการรักษาผู้ป่วยไวรัสโคโรนาฯ นั้น เรายินดี เพราะเราไม่เคยปิดข้อมูลหรือกั๊กข้อมูล และการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะนำมาซึ่งผลดี ทั้งในแง่การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับมาตรการยกเลิกวีซ่าหรือไม่ให้นักท่องเที่ยวจากจีนเข้าประเทศของประเทศต่างๆขณะนี้พบว่าประเทศที่ใช้มาตรการเหล่านี้ก็ไม่ได้มีตัวเลขการติดเชื้อน้อยไปกว่าไทย แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเรา ดังนั้น จึงจะไม่เอาเหตุอื่นมาเป็นข้ออ้างในการทำให้ระบบการควบคุมเฝ้าระวังโรคของไทยลดระดับลง เพราะหากไปห้ามการเดินทางเข้ามา ระบบควบคุมก็อาจด้อยลง เพราะไม่มีคนเดินทางเข้ามาแล้ว
"ในแง่ของเศรษฐกิจ อยากให้มองว่าประเทศจีนขอบคุณประเทศไทยอย่างไร เพราะเราดูแลรักษาผู้ป่วยประชาชนของเขาอย่างดี จนหายและกลับบ้านได้ และการที่มีความัสมพันธ์อันดีเช่นนี้ ก็จะส่งผลให้ต่อไปเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย รัฐบาลจีนก็ต้องส่งเสริมประชาชนของเขามาเที่ยว มาใช้เงินในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนก็มีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ที่มาประเทศไทย" นายอนุทินกล่าว
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ป่วยยืนยันในประเทศไทยยังเท่าเดิม คือ 25 ราย รักษาหายแล้ว 9 ราย เหลือในรพ. 16 ราย ไม่มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มเติม ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มขึ้นเป็น 595 ราย กลับบ้านแล้ว 202 ราย สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงโดยมีวัณโรคร่วมด้วยนั้น ซึ่งรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร อาการยังทรง ไม่ได้แย่ลง ยังคงรักษาตามอาการตามปกติ อาการผู้ป่วยรายอื่นดีขึ้นทุกราย ส่วนกรณีคนไทยที่กลับมาจากญี่ปุ่นและมีการติดเชื้อนั้น เราได้ส่งข้อมูลไปยังญี่ปุ่นแล้ว ส่วนกรณีเกาหลีใต้นั้นเรายังไม่ได้ข้อมูลมา ส่วนประเด็นเรื่องคนจีนที่ลูกคลอดออกมาแล้วติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากแม่ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะไวรัสสามารถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้
©2018 CK News. All rights reserved.