วันที่ 27 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า โครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” ที่ต้องการทำความฝันของผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตนเองให้เป็นความจริงตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดตัวโครงการไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน (11/11) และจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ภายใต้แคมเปญ "ซื้อปุ๊บ โอนปั๊บ รับทันที 3 สิทธิพิเศษ" สิทธิ์ที่ 1 กู้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ดอกเบี้ยคงที่ 2.5% นาน 3 ปี วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท หมดแล้วหมดเลย สิทธิ์ที่ 2 ฟรีค่าโอนและค่าจดจำนอง และสิทธิ์ที่ 3 รับโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม พร้อมส่วนลดสุดพิเศษอลังการ (จากโครงการที่เข้าร่วม) โดยให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เลือกซื้อกับโครงการทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตนเองและครอบครัว เพราะเป็นการออมอีกรูปแบบหนึ่ง ช่วยสร้างสถาบันครอบครัวให้มั่นคงและอบอุ่น
ซึ่งผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลายโครงการจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ พร้อมของแจกของแถมอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ยอดขายบางเฟสหมดลงเพียงแค่วันเดียว ต้องเปิดจองในเฟสใหม่ทันที นับเป็นการช่วยระบายสต๊อกคงค้างของผู้ประกอบการที่มีอยู่ได้เป็นผลสำเร็จตามมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในระดับที่น่าพอใจ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า โครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” เป็นโครงการที่ช่วยลดภาระของผู้ที่สนใจซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทได้เป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และเน้นการสื่อสารในทุกช่องทาง ทำให้กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังนำมาใช้เพื่อการทำโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปีให้กับผู้ที่สนใจซื้อที่อยู่อาศัยด้วย นับว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ให้มีความคึกคักขึ้น หลังจากมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี 62 แตกต่างกับช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ที่การขายและการโอนกรรมสิทธิ์ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน และยังนับเป็นแคมเปญที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาฯ ได้เช่นกัน
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย บอกว่า กระทรวงการคลังพยายามอย่างเต็มที่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีวิสัยทัศน์นำธุรกิจอสังหาฯ เป็นตัวนำ หนึ่งในการขับเคลื่อนและมีการออกมาตรการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วย เมื่อผนวกรวมกับการส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการแต่ละโครงการ ทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จนเห็นได้ชัดเพิ่มแรงบวกต่อธุรกิจมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลดีตามมาเป็นลำดับ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากให้พิจารณาคือความต่อเนื่องของมาตรการส่งเสริม การผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ เช่น การขอสินเชื่อ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การโอนเงินข้ามประเทศ และการส่งเสริมให้ประชาชนซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัย เป็นบ้านหลังที่สอง และเพื่อการลงทุนได้ เพราะคอนโดมิเนียมไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย แต่เป็นบ้านที่สะดวกสำหรับทุกคน ทั้งวัยเรียน ทำงาน และผู้สูงวัยในอนาคต ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หากเป็นไปได้ก็เชื่อว่าจะเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจอสังหาฯ โดยรวมฟื้นตัวเร็วขึ้นและสดใสขึ้นในปี 2563
ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร บอกว่า โครงการ "บ้านในฝัน รับปีใหม่" ช่วยลดภาระของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างมาก มีส่วนสำคัญมากในการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 เห็นได้ชัดจากยอดการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคมฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน และน่าจะส่งผลถึงธุรกิจเชื่อมโยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัสดุก่อสร้างและการใช้แรงงานจำนวนมาก รวมถึงสินเชื่อของภาคสถาบันการเงินต่างๆ ด้วย
©2018 CK News. All rights reserved.