วันที่ 8 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ชายหาดสามพระยา บ้านคุ้งโตนด ม.1 ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายดิเรก จอมทอง ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย จังหวัดประจวบฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมชาวประมงบ้านคุ้งโตนด ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “ปาบึก” จนเรือประมงถูกคลื่นซัดจนจมเรือพังเสียหาย ขณะจอดหลบลมบริเวณชายฝั่งหาดสามพระยา
โดยชายหาดดังกล่าว มีพื้นที่ติดกับหาดบ้านคุ้งโตนด ซึ่งจะมีเรือจากบ้านคุ้งโตนดมาอาศัยจอดอยู่ประมาณ กว่า 10 ลำ ที่บนบกริมหาดพบเรือประมงชายฝั่งจำนวน 2 ลำ ถูกนำขึ้นมาจอดไว้ ซึ่งเป็นลำที่โดนพายุปาบึกพัดพาเอาคลื่นขนาดใหญ่ซัดจนเรือจม ท้องเรือกระแทกพื้นจนแตก เครื่องจมน้ำได้รับความเสียหาย ตีเป็นมูลค่าความเสียหายลำละ 35,000 บาท ซึ่งทางเจ้าของเรือได้แจ้งความเสียหายไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลเขาแดง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หาทางช่วยเหลือ
ด้านนายอำนาจ บุญมา ประธานกลุ่มประมงชายฝั่ง อำเภอกุยบุรี กล่าวว่า เรือประมงชายฝั่งของชาวบ้านคุ้งโตนดนั้น มีจำนวน 28 ลำ บางส่วนก็จอดที่หาดบ้านคุ้งโตนด บางส่วนก็มาจอดที่ชายหาดสามพระยาด้านติดกับภูเขาทางทิศเหนือ หลังเดือนมีนาคมไป เรือบริเวณนี้ก็จะกลับไปจอดที่หาดบ้านคุ้งโตนด ส่วนในวันเกิดเหตุนั้น ชาวบ้านได้ฟังข่าวอยู่ จึงไม่มีใครนำเรือออกทำการประมง ซึ่งเรือทั้งสองลำนั้น ก็มาจอดหลบพายุที่ชายหาด แต่โดนความแรงของคลื่นจากพายุปาบึก ซัดจนเรือจมได้รับความเสียหาย ขนาดใช้สมอถึง 3 เส้น แต่ก็ไม่สามารถทานความแรงของคลื่นได้ ถูกพัดจนเชือกสมอเรือขาด เรือกระแทกพื้นท้องเรือพัง จนต้องช่วยกันลากขึ้นมาไว้บนฝั่งเพื่อรอการซ่อมแซมต่อไป
ด้านนายวิชิต กล่าวว่า จากการที่คลื่นซัดจนเรือพังดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านก็ไม่มีเครื่องมือที่จะหากินแล้ว ซึ่งทราบมาว่า ทางเจ้าของก็ได้ไปแจ้งยัง อบต.เจ้าของพื้นที่แล้ว ก็คงต้องมีกการเยียวยา ซึ่งทางตนเองจะช่วยติดตามว่าจะมีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลและเยียวยา อีกทั้งยังทำให้คิดว่า น่าจะต้องมีการจัดตั้งกองทุนอะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งทางรัฐบาลอาจจะช่วยเงินอุดหนุน หรือจากส่วนอื่นๆ สร้างดองทุนนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ที่เวลาเรือเกิดประสบอุบัติเหตุหรือภัยต่างๆ และมีการเยียวยากัน ซึ่งตนเองในฐานะผู้จะอาสาเข้ามาดูชาวประมงชายฝั่งและชาวจังหวัดประจวบฯ ก็จะคอยติดตามเรื่องดังกล่าวให้เป็นผลสำเร็จ เพื่อจะได้ช่วยเหลือชาวประมงได้อย่างยั่งยืนต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.