เมื่อวันที่ 20 พ.ย. เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สมภาาษณ์ว่า วันนี้ได้รับหนังสือจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่นร 0404/11582 ลงวันที่ 18 พ.ย. เพื่อขอแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯในวันที่ 20 พ.ย.ออกไปก่อน โดยพล.อ.ประยุทธ์ ในหนังสือระบุว่า เนื่องจากมีภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จึงไม่สามารถชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ จึงขอแถลงข้อเท็จจริงและความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯได้มีหนังสือที่ นร 403 (กร.1) / 11573 ลงวันที่ 18 พ.ย. เพื่อขอแถลงข้อเท็จจริงและความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร เนื่องจากติดราชการไม่สามารถมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการด้วยตนเองได้ โดยมอบหมายให้นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกฯเป็นผู้นำส่งเอกสารคำแถลงข้อเท็จจริง และความเห็นต่อคณะกรรมาธิการประกอบการชี้แจงให้ข้อมูลในวันที่ 20 พ.ย.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์มีหนังสือมาเช่นนี้ก็พร้อมจะรับไว้และจะแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯต่อไป ส่วนจะให้อำนาจตามพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 อีกครั้งหรือไม่นั้นยังเป็นประเด็นที่ไม่อาจพูดล่วงไปได้ เพราะต้องขอมติจากที่ประชุมก่อน เพื่อให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องเชิญพล.อ.ประยุทธ์ เพราะนายกฯเป็นผู้นำกล่าวคำถวายสัตย์เพียงคนเดียว จึงเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่อาจสอบถามรัฐมนตรีคนอื่นได้

ประธานป.ป.ช. กล่าวต่อว่า สำหรับการพยายามของฝ่ายรัฐบาลในการจะปลดตนเองออกจากการเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯนั้น อยากจะขออธิบายว่ากรรมาธิการตั้งโดยสภาผู้แทนราษฎรและตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯเป็นไปตามสัดส่วนของส.ส.แต่ละพรรค

ประธานคณะกรรมาธิการฯชุดนี้เป็นโควต้าของพรรคเสรีรวมไทย ต่อให้กรรมาธิการ 14 คนปลดก็ไม่สามารถทำได้ เป็นสมบัติของผม ใครก็เอาไปไม่ได้ มาแย่งชิงผมไปได้ยังไง เหมือนสมบัติของน้องใครจะไปเอาได้ ก็เท่ากับไอ้พวกนี้โจร จะมาปล้นปล้นตำแหน่งไปได้อย่างไร ไม่เรียนรู้บ้าง ทำไม่ได้" พล.ต.อ.เสรีพิศุใทธ์ "กล่าว