กองทัพ ย้ำเร่งช่วยคนไทยกลับ คาดทหารเขมรดับไม่น้อยกว่า 165 ราย


12 ธ.ค. 2568, 14:10

กองทัพ ย้ำเร่งช่วยคนไทยกลับ คาดทหารเขมรดับไม่น้อยกว่า 165 ราย




วันที่ 12 ธ.ค.2568 ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดย พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงความคืบหน้าสถานการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ธ.ค. 68) จนถึงวันนี้ (12 ธ.ค. 68) ว่า กระทรวงการต่างประเทศยังคงประสานความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อขอความร่วมมือนำคนไทยในกัมพูชากลับสู่ประเทศ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ดำเนินการประสานความร่วมมือของฝ่ายไทย ซึ่ง นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่าสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นมีผลต่อการประสานงาน แต่กระทรวงการต่างประเทศ ยังคงประสานงานเพื่อขอความร่วมมืออย่างเต็มที่จากฝ่ายกัมพูชา

ส่วนในด้านปฏิบัติการทางทหาร พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ได้นำเสนอข้อมูลและแผนที่ เพื่อแสดงถึงพื้นที่ที่มีการปะทะในขณะนี้ โดนยืนยันว่า ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ซำแต ช่องจอม ช่องเปรอ และช่องระยี ได้เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ของกองทัพภาคที่ 1 ก็สามารถควบคุมได้แล้วเช่นกัน

ส่วนพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้บางส่วนคือบริเวณช่องอานม้า ช่องคนา ซึ่งมีปราสาทคนาตั้งอยู่

ส่วนพื้นที่ที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เช่น ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ แม้ว่าไทยสามารถทำลายการโจมตีและฐานทหารโดยรอบปราสาทเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยภูมิประเทศที่มีความยากลำบาก ทำให้ทหารไทยยังคงพยายามปฏิบัติการเข้าควบคุมพื้นที่

ส่วนบริเวณบ้านคลองแผง ในอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว แม้ว่ากองกำลังบูรพา รายจะงานว่า ในวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยจะสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว แต่ในคืนเดียวกันฝ่ายกัมพูชาก็ระดมโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ และพิจารณาว่าบริเวณดังกล่าวยังไม่สามารถวางกำลังได้และต้องปรับแนวรบ ปัจจุบันกองกำลังบูรพายังคงใช้ความพยายามเข้าควบคุมพื้นที่อีกครั้ง

ขณะที่ นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้สนับสนุนปฏิบัติการใช้เครื่องบิน F-16 เข้าโจมตีในพื้นที่บ้าน 3 หลัง ในพื้นที่ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งตรวจพบว่ามีการขุดสนามเพลาะ (คูเลต) รวมถึงมีการสร้างบังเกอร์ในพื้นที่ใต้ดิน การโจมตีดังกล่าวจึงเป็นการทำลายบังเกอร์ของฝ่ายกัมพูชาให้หมดสภาพความเป็นภัยคุกคาม และดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ต่อไป เนื่องจากในด้านข่าวกรอง ยังทราบว่าฝ่ายกัมพูชาได้เพิ่มเติมกำลังเข้ามาในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพิสูจน์ว่ากัมพูชายังคงดำรงความเป็นภัยคุกคาม และไทยยังคงต้องปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง

สำหรับยอดทหารไทยที่เสียชีวิตยังมีทั้งหมด 9 ราย โดยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ยังไม่มียอดการสูญเสียเพิ่มเติม และมียอดทหารไทยที่บาดเจ็บทั้งหมด 190 นาย

ส่วนความสูญเสียที่เกิดขึ้นของฝ่ายกัมพูชา ณ วันนี้ ฝ่ายไทยสามารถทำลายยานเกราะและรถถังของฝ่ายกัมพูชาได้ 9 คัน โดรน 68 ลำ แอนตี้โดรน 1 ระบบ เสาสื่อสาร 3 จุด เครื่องยิงจรวด BM-21 1 ระบบ โดยทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต ยืนยันว่ามีไม่น้อยกว่า 165 ราย





คำที่เกี่ยวข้อง : #ชายแดนไทย-กัมพูชา  









©2018 CK News. All rights reserved.