วันที่ 4 ส.ค.2568 ร.ต.อ.อภินันท์ พจน์มนต์ปิติ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.วรวุฒิ ลักขณา และ จ.ส.ต.ชัยวัฒน์ มหาโพธิ์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม น.ส.ธันยธรณ์ฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง ที่ จ.434/2567 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2567
เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยทุจริต หลอกหลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยหลอกหลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สิน จากผู้ถูกหลอกลวงและโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งและเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินฝากของตน โดยไม่ได้ไม่ได้เจตนาให้ใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านบริเวณ ซ.พหลโยธิน 54/1 แยก 4-32 แขวงสายไหม เขตสายไหม จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือน เม.ย.2566 ผู้เสียหายพบเห็นช่องทางการทำงานออนไลน์ เป็นการโหวตคะแนนเกี่ยวกับภาพยนต์โดยการเข้าไปชมเพื่อเพิ่มยอดผู้ชม (ยอดวิว) โดยรายละเอียดคือ ต้องทำการโอนเงินเข้าไปเพื่อแลกคะแนนในการโหวตของภาพยนต์แต่ละเรื่อง ซี่งจะได้รับผลตอบแทน 20% ของคะแนนโหวต ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำการโอนเงินเพื่อแลกเป็นคะแนนสำหรับการโหวต เมื่อเวลาผ่านไป กลับไม่ได้ผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง จึงเชื่อว่าตนถูกหลอกลวง ซี่งมีมูลค่าเสียหายรวมกว่า 3 แสนบาท โดยตนทำการโอนเงินไปบัญชีธนาคารหลากหลายบัญชี ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นบัญชีของผู้ต้องหาในคดีนี้ และต่อมาได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.ธันยธรณ์ฯ (ผู้ต้องหา)ปรากฏตัวในบริเวณสถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมจึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบดูและพบว่าเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับจริง จึงดำเนินการจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เมื่อประมาณปี 2566 ตนเองพบเห็นว่ามีประกาศรับรายได้พิเศษ ภายในเพจ Facebook (จำชื่อไม่ได้) ตนจึงสนใจและติดต่อไป เพจดังกล่าวได้ให้ตนเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ เมื่อได้รับรหัส OTP มายังโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา ก็ได้แจ้งรหัส OTP ไปยังเพจดังกล่าว ก่อนเปลี่ยนเบอร์ในระบบ หลังจากนั้นบัญชีธนาคารของตนก็ถูกนำไปใช้โดยผู้อื่นซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด และตนได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 400 บาท จนมาทราบภายหลังว่าตนเองมีหมายจับดังกล่าวข้างต้น
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า ชื่อบัญชีของผู้ต้องหา ขึ้นการแจ้งเตือนจากเว็ปไซต์ที่รวบรวมการฉ้อโกงของบัญชีธนาคาร โดยมีรายละเอียดว่าว่าชื่อของผู้ต้องหา เคยหลอกลวงประชาชนโดยทั่วไป เช่นหลอกลวงขายนมโรงเรียนให้กับมารดาที่มีลูกเล็ก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว มีความผิดตามกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป
©2018 CK News. All rights reserved.