12 เมษายน 2568 พระเทพวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ตอบคำถามถึง จุดยื่นของ มจร หรือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หลังจากถูกตั้งคำถามเรื่อง “ศักดิ์ศรีอยู่ที่ไหนใน มจร ” อยู่ที่ยศถาบรรดาศักดิ์ หรือวิชาการ โดยมีใจความว่า
จุดยืนที่สำคัญของสถาบันสงฆ์ มหาวิทยาลัยสงฆ์ และโดยเฉพาะคือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยคือการให้การศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม บัดนี้ เวลานี้ จุดยืนนี้ อุดมการณ์นี้ เป้าหมายนี้ ไม่เคยเปลี่ยนไปจากพวกเราชาว มจร พวกเราที่บริหารกันอยู่วันนี้ส่วนใหญ่เป็นพระผู้น้อย พวกเราจึงมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละเพื่อให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าไปให้ได้ ไปให้ดี ให้มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ การบริหาร มจร ในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่จะจับหมุนอย่างไรก็ได้ วันนี้ มจร ของเราอยู่ภายใต้บริบทแห่งสังคมที่เปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว วิถีผู้คนเปลี่ยน แนวคิดและการดำรงชีวิตก็เปลี่ยน เทคโนโลยีก้าวไกล เด็ก gen ใหม่มีมากขึ้น แล้วฝ่ายบริหาร มจร จะนำพาองค์กรนี้ไปอย่างไร ทิศทางใหน ท่ามกลางความหลากหลาย ความต้องการ พายุคลื่นลมและข้อจำกัดอื่นอีกมากมาย
ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือคำตอบในเรื่องนี้นั่นคือ“พันธกิจ”ของ มจร (จะเรียกว่าจุดยืน อุดมการณ์ ก็ไม่ผิด) วันนี้เราจึงกล้าพูดได้ว่าเราภูมิใจ เราดีใจที่เราได้ทำพันธกิจได้บรรลุเกือบจะทุกตัวชี้วัด (KPI)ในให้การศึกษาพระพุทธศาสนาแก่ผู้คนมากขึ้น ครอบคลุมแผ่หลายมากมาย สร้างคุณประโยชน์มหาศาล ในยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้านของ มจร นั้นเรามั่นใจและภูมิใจว่าเราทำได้เกือบจะครบและสมบูณ์ คือ
1.การผลิตบัณฑิตที่มีสติปัญญาและคุณธรรม
2.วิจัยและพัฒนา
3.บริการวิชาการแก่สังคม
4.ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม
ส่วนในอีกด้านหนึ่งในทางสังคมนั้น ด้านนี้นั้นเป็นที่ถูกจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์ถึงอยู่บ่ิอยๆแต่ระยะหลังมานี่ก็มีระดับที่ถี่ขึ้นวิพากษ์ทั้งเบาทั้งหนักและรุนแรงปานแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ก็มี จึงขอบอกว่าการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ ปกป้องและคุ้มครองพระพุทธศาสนานั้นยังเป็นชีวิต เป็นเลือดเนื้อของพวกเราอยู่ ยังมีอยู่ ยังเต็มล้น ไม่เคยเหือดแห้ง เหือดหายมลายไปจากจิตใจของพวกเราเลย ไม่เคยเลย แต่การกระทำ การแสดงออกก็จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสม เราจะทำตามอำเภอใจไม่ได้ เพราะนี่คือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ใช่ตัวบุคคลหรือสมาคม องค์กรต่างๆที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการเคลื่อนไหว วันนี้นั้นจึงอยากให้พวกเราทุกคนได้เข้าใจถึงสถานะและบทบาทของมหาวิทยาลัยจะได้ตระหนักรู้ร่วมกัน และอยากให้พวกเราทุกคนมองเห็นภาพรวมให้ตรงกัน และในที่สุดแล้วจึงจะมองเห็นได้ว่าจากนี้ไปเราจะช่วยกันรักษาสถาบันหลักทางการศึกษาของคณะสงฆ์ไทยที่มีประวัติการสถาปนามากว่า 138 ปีนั้นคือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยของพวกเรา ดังนั้นพวกเราทุกคนจะช่วยกันรักษาสถาบันนี้ไว้ให้สง่างามได้อย่างไร
วันนี้มหาวิทยาลัยเป็นองคาพยพใหญ่ มีพันธกิจหลายด้าน การทำงานจึงอาจจะมีทั้งถูกใจและไม่เห็นด้วย มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ อันนี้เป็นธรรมดาของชาวโลก ว่าได้ติเตียนได้ โดยเฉพาะอาตมานั้นก็เป็นตำบลแห่งกระสุนตกเรื่อยมา ไม่มีปัญหา ยินดี แต่ถ้าพูดไปถึงภาพใหญ่รุกไปถึงองค์กร อันนี้ก็ต้องพิจารณาให้ดี ให้ความเป็นธรรมกับผู้คนทั่งหลายในองค์ด้วย
©2018 CK News. All rights reserved.