วันที่ 10 เม.ย.2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความถึงคืบหน้า 14 วันของการค้นหาผู้ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. แห่งใหม่

นายชัชชาติ  กล่าวว่า เมื่อสักครู่นี้ได้มีการทำบุญให้กับผู้ที่ประสบภัยและญาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายในบริเวณ อาคารจอดรถ ใกล้กับตึกสตง.ถล่ม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเสริมความเป็นสิริมงคล โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์ 103 รูป เพื่อให้เท่ากับจำนวนผู้ประสบภัยตามคำแนะนำของท่านเจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง, กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งได้มาเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ในวันนี้ด้วย และมีญาติๆของผู้ติดค้างที่เข้ามาร่วมทำบุญวันนี้น่าจะเกือบ 100 คน ซึ่งตนได้คุยกับญาติๆของผู้ประสบภัยแล้วว่า จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องอยู่รอที่นี่ก็ได้ เพราะหาเจอผู้รอดชีวิตอย่างไรก็ต้องพาไปโรงพยาบาลก่อนอยู่แล้ว และถ้าหากโชคร้ายเป็นผู้เสียชีวิต ก็ต้องนำร่างส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลก่อน ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง จึงแนะนำว่า ใครที่สามารถกลับไปรอที่บ้านได้ก็ แจ้งที่อยู่ไว้กับเจ้าหน้าที่เพื่อติดต่อได้ แต่ถ้าใคร ประสงค์จะอยู่ที่นี่ก่อนก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไร และถ้าอยากอยู่อย่างสะดวกสบายมากกว่านี้ขึ้นอีกหน่อย เราก็มีสถานที่พักพิงแบบเต็มรูปแบบอยู่ที่ศูนย์พักพิงวัดเสมียนนารี และสำหรับญาติผู้ประสบภัย ที่เป็นต่างชาติ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บป่วย หรือสถานะการเข้าเมืองใด ๆ ถ้าอยากปรึกษาเราก็มีอาสาสมัครคอยเป็นล่ามให้ รวมถึงถ้าผู้ที่เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวขาดผู้นำครอบครัวเราก็สามารถประสานหางานให้ได้

จากการพาญาติเข้าไปทำบุญภายในสถานที่ตึกถล่ม ก็ได้ข้อดีตรงที่ญาติได้ทำบุญและได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็เกิดความสบายใจมากขึ้น และในส่วนของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นบ้าง เช่น ในโซน C ที่เครื่องจักรเข้าไปกี่ครั้งก็จะเสียทุกครั้ง หลังจากปรึกษาท่านเจ้าคุณธงชัย ก็คิดว่าการทำบุญครั้งนี้น่าจะช่วยเสริมกำลังใจของเจ้าหน้าที่ได้

ในส่วนของความคืบหน้าการทำงานในวันนี้ ก็ยังคงประสบปัญหาเดิมคือสายไฮดรอลิคที่อาจจะถูกเหล็กเกี่ยวสายแตก แต่ก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว ส่วนที่มีกระแสว่าน้ำมันหรืออุปกรณ์อาจจะไม่เพียงพอยืนยันว่าเพียงพอ น้ำมันไฮดรอลิก หรืออะไหล่ต่างๆ ก็เตรียมพร้อมตุนไว้สำหรับช่วงสงกรานต์ ที่อาจจะมีหลายร้านปิดทำการ และสำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคก็ยังสามารถบริจาคได้อยู่ แต่ไม่ได้รับเพราะมันไม่เพียงพอ แต่รับเพราะเห็นว่าผู้ให้อยากให้

เรื่องเหล็กบางจุดที่มีความเหนียว ก็ต้องมีกำลังคนช่วยใช้เครื่องมือตัดร่สมกับเครื่องจักรหนักเป็นบางจุด ความคืบหน้าตอนนี้ ก็สามารถเคลียร์ออกไปได้แล้วเกือบ 40% และแผนงานอื่นก็ยังคงเอิม เน้นการเปิดหน้างานจุด B กับจุด C ที่คาดว่าจะพบผู้ติดต้างเยอะที่สุด

ด้าน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่า กทม. กล่าวว่า ตามที่ได้แจ้งไปแล้วว่า ทางกทม. เปิดให้ยื่นลงทะเบียน เพื่อขอรับการเยียวยาเหตุแผ่นดินไหว ที่ 50 สำนักงานเขต ได้จนถึงวันที่ 27 เม.ย.นี้ โดยจัแให้มีเจ้าฟน้าที่ตำรวจคอยให้บริการอยู่ที่สำนักงานเขตเลย ไม่ต้องเดินทางไป สน. ซึ่งมีหลายคนสงสัยว่าทำไมต้องมีการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเพราะเนื่องจากบางรายมีทรัพย์สินสูญหาย มีความเสียหาย หรือมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว จึงต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายร่วมด้วย จนถึงเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทราบข้อมูลว่ามีผู้มาแจ้งไว้แล้วกว่า 7,000 เคส โดยเทสที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วนคือเคสที่ มีน้ำรั่วฝ้าร่วง ซึ่งจะเกิดความเสียหายมากขึ้นหากมีฝนตกลงมา เคสแบบนี้ทางเขตก็จะเข้าไปดำเนินการก่อน หลายเคสอาจจะตกใจเพราะเจ้าหน้าที่ทำงานไวกว่าที่คิด ทำให้อาจจะพลาดนัดครั้งแรกไป ก็สามารถนัดหมายใหม่ได้อีกเรื่อยๆ สวนในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บก็อยากให้มีหลักฐานไว้บ้างอย่างเช่นใบรับรองแพทย์ เพื่อใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นก็อยากให้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย เพื่อให้การทวนข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น แต่ส่วนของเงินเยียวยาโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเริ่มทยอยจ่ายไปเป็นชุด ๆ จะไม่จ่ายทีเดียวหลังวันที่ 27 เมษายน เพราะเคสจะเยอะเกินไป และจะทำให้ล่าช้า โดยการจ่ายเงิน ตามกระบวนการจะต้องจ่ายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วันนับจากวันสุดท้ายที่เปิดรับแจ้ง และหากจำนวนมีเยอะมากผู้ที่แจ้งท้ายๆ อาจจะต้องยืดระยะเวลาออกไปแต่พยายามจะไม่ให้เกินการยืดกำหนดระยะเวลารอบแรก คือไม่เกิน 90 วัน

หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ ได้กล่าวเสริมว่า การเยียวยานี้ กทม. จะเป็นเหมือนเลขาที่รวบรวมข้อมูลความเสียหายให้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเคสที่ไม่ได้เสียหายหนักมากอาจไม่ได้รับการเยียวยา เต็มจำนวนอย่างที่คาดหวังไว้ต้องอิงไปตามหลักเกณฑ์ที่ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตั้งไว้ ตามมาตรฐานของกรมบัญชีกลาง