วันที่ 25 มี.ค.2568 พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.    พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม. ว่าที่ พ.ต.อ.นพรัตน์ จงเชิดตระกูล ผกก.4 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.จิรโชติวัจน์ คล้ายคลึง รอง ผกก.4 บก.สส.สตม.  และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. ที่จับกุม ว่าที่ พ.ต.ต.พัสกร กลัดงิ้ว สว.กก.4 บก.สส.สตม. แบะเจ้าหน้าที่ กก.4.บก.สส.สตม. และกก.สส.บก.น.6 ร่วมกันจับกุมนายคาเนดะ สงวนนามสกุล อายุ 42 ปี สัญชาติญี่ปุ่น จับกุมได้บริเวณห้องพักในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง ได้รับแจ้งจับตัวชายชาวญี่ปุ่นตามหมายจับได้หลอกลวงชักชวนคนไทยและเพื่อนร่วมชาติร่วมลงทุนทำธุรกิจกัญชาและธุรกิจอื่นมากมาย มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท

จากการตรวจสอบคือนายคาเนดะ ผู้ต้องหาหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 63/2568 ลงวันที่ 21 ก.พ. 68 ในข้อหา "ฉ้อโกง" ซึ่งมีเอกสารที่ใช้แอบอ้างในการฉ้อโกงผู้อื่น เอกสาร ข้อมูลบริษัทคนญี่ปุ่นที่เปิดในประเทศไทยที่ใช้ในการหลอกลวงอีกจำนวนมาก เดินทางเข้าล่าสุดประเทศเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2567 ผ่านช่องทางสนามบินดอนเมือง

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมร่วมกับทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ ของทางการญี่ปุ่น เหตุเมื่อปี 2560 บุคคลดังกล่าวได้ร่วมกันก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมชาติบริเวณ ซอยสุขุมวิท 49/13 เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยขากรรไกรล่างหัก ฟันกรามซี่ที่ 2 ขากรรไกรล่างซ้ายหัก ซึ่งต้องได้รับการรักษาพยาบาลนานประมาณหนึ่งเดือน  ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้เดินทางกลับไปแจ้งความดำเนินคดีต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเหตุให้ทางการญี่ปุ่นออกหมายจับอีกคดีหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมในขณะจับกุม เชื่อว่า ผู้ต้องหา ยังเป็นสมาชิกในองค์กรอาชญากรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากพบข้อมูลคลิปเกี่ยวกับการเรียกค่าไถ่โดยการใช้มีดกรีดที่ใบหู และ มีบทสนทนาพูดคุยถึงการเรียกค่าไถ่และขู่จะเอาชีวิต และอาจรวมถึงการค้ามนุษย์ในรูปแบบของการค้าอวัยวะอีกด้วย โดยพยานหลักฐานที่พบ มีการระบุราคาชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ อยู่ระหว่างขยายผลการตรวจสอบ จากการสอบสวนบุคคลดังกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแจ้งบุคคลดังกล่าวว่าจะต้องถูกจับ และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป