วันที่ 12 มี.ค. 2568 นายมณเฑียร เจริญผล
ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. , เจ้าหน้าที่จาก

สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เดินทางไปยัง อาคารกีฬาเวสน์ 1 ถนนมิตรไมตรี แขวงและเขตดินแดง เพื่อประสานขอรับมอบตัว กลุ่มเจ้าหน้าที่กองการกีฬา สํานักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 ราย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ,เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันรับรองเอกสารเท็จ” จากกรณีร่วมกันทุจริตงบประมาณจัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ สร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นเงินกว่า 2,790,748 บาท

โดยเจ้าหน้าที่กองการกีฬา สํานักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ทั้ง 7 ราย ที่ถูกออกหมายจับจากกรณีเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการทุจริตดังกล่าว ประกอบด้วย 1.นายดำรงค์ รื่นสุข อดีตผู้อำนวยการกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว 2.นายภูมินทร์ (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งนักพัฒนาการกีฬา 3.นายคมกริช (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งนักพัฒนาการกีฬา 4. นายอภินันท์ (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งนักพัฒนาการกีฬา 5.นายปฏิญญา (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุ 6.น.ส.สิริกัญญา (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการชำนาญการ และ 7. น.ส.สุชาวดี (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ

สำหรับที่ไปที่มาของคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติเบิกงบประมาณจัดจ้างซ่อมรถบัสของสังกัดกองการกีฬา สํานักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จํานวน 5 คัน จึงประสานข้อมูลมายัง ตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด

จากการตรวจสอบเอกสารต่างๆเกี่ยวกับการจัดจ้าง พบว่า ในช่วงระหว่างปี 2565 – 2567 มีการเบิกฎีกาจ้างเหมาซ่อมรถแต่ไม่มีการส่งรถเข้าซ่อมจริง รวม 28 ครั้ง เป็นเงินรวม 2,790,748 บาท โดยมีกลุ่มเจ้าหน้าที่กองการกีฬา จำนวน 8 ราย เป็นผู้ดำเนินการทำเรื่องเบิก ด้วยการปลอมใบเสนอราคาของอู่ซ่อมรถ ทั้ง 5 คัน ขึ้นมาเป็นหลักฐานในการยื่นเรื่องขออนุมัติงบประมาณ

หลังปรากฎหลักฐานการกระทำผิดแน่ชัด ทางกรุงเทพมหานคร ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด จึงเร่งนำเรื่องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว จนนำมาสู่การรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับเจ้าหน้าที่พัสดุกองการกีฬาทั้ง 8 ราย ก่อนที่ต่อมาจะมีการประสานติดต่อเข้ามอบตัวในวันนี้ที่อาคารกีฬาเวสน์ จำนวน 7 ราย ส่วนอีกรายคือ นายนพินทร์ ไชยทิพย์ อายุ 47 ปี ได้เสียชีวิตจากการยิงตัวตายไปก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งหลังจากนี้ทาง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. จะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้าก่อนหน้าที่จะมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 รายนั้น ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ และ คณะเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งย่านสุขาภิบาล 3 เพื่อเข้าสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม เนื่องจากแนวทางสืบสวนพบว่า อู่รถดังกล่าว คือ อู่ซ่อมรถ ที่กลุ่มผู้ต้องหาใข้แอบอ้างปลอมแปลงใบเสนอราคาขึ้นมาเพื่อใช้กระทำการทุจริตเงินดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่กองการกีฬาที่ตกเป็นผู้ต้องหากลุ่มนี้ ยังเป็นกลุ่มเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยคดีทุจริตโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงเกินจริงก่อนหน้านี้