ปอท.รวบโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน จำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กบนดาร์กเว็บ


11 มี.ค. 2568, 10:43

ปอท.รวบโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน จำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กบนดาร์กเว็บ




วันที่ 11 มี.ค.2568 พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท., พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท., พ.ต.ท.ธนนชัยย์ ศรีบุญจันทร์, พ.ต.ต.วชิรเชษฐ์ อัครธีระพงศ์, พ.ต.ต.ศุภเดช ธนชัยศิริ สว.กก.2 บก.ปอท., ร.ต.อ.ลัทธพล อัครปัญญา สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.จิรายุ วงศ์วิวัฒน์ รอง สว.กก.2 บก.ปอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ร่วมกับ บก.ปคบ. และ บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม MR.STEFFEN (นายสเตฟเฟน) อายุ 54 ปี สัญชาติ เยอรมัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1633/2568 ลง 3 มี.ค. 2568

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลาย โดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก”

สถานที่จับกุม คอนโดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กโดยผิดกฎหมาย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จึงเร่งดำเนินปราบปรามกลุ่มผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเล็งเห็นว่าในปัจจุบัน รูปแบบของการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเด็ก มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร และมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดและทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม                   
ต่อมาในช่วงประมาณเดือนธันวาคม พ.ศ.2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอท. ได้รับการประสานมาจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ให้ช่วยดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื่องจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ตรวจพบเว็บไซต์ที่มีพฤติกรรมจำหน่ายสื่อแสดงการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก (CSAM) และพบว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุอาศัยอยู่ในประเทศไทย
 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. จึงได้ดำเนินการสืบสวนจนสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดรายนี้ โดยพบว่าผู้กระทำความผิดรายนี้มีการใช้ดาร์กเว็บ (Dark web) เพื่อจำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยมีทั้งคลิปแอบถ่าย, คลิปวาบหวิว, คลิปหลุด, คลิปการช่วยตัวเอง และคลิปการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าบุคคลที่ปรากฎอยู่ในสื่อลามกอนาจารส่วนใหญ่เป็นเด็ก
 

จากการตรวจสอบเว็บไซต์ที่จำหน่ายสื่อลามกอนาจารดังกล่าว พบว่า หากจะเข้าใช้บริการ จะต้องมีการสมัครสมาชิก โดยผู้สมัครจะต้องโอนเงินดิจิทัลสกุล Bitcoin หรือ Monero ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้กระทำความผิดก่อน จากนั้นจึงจะได้เป็นสมาชิก และจะได้รับเครดิตเท่ากับจำนวนเหรียญที่โอนไป ซึ่งภายหลังจากที่ได้เครดิตแล้ว หากสมาชิกเข้าดูคลิปวิดีโอใดในเว็บไซต์ สมาชิกจะถูกหักเครดิตตามราคาของแต่ละวิดีโอ โดยนอกจากบริการการเข้าชมสื่อลามกอนาจารในเว็บไซต์นี้ได้แล้ว สมาชิกยังสามารถดาวน์โหลดคลิปลามกอนาจารมาเก็บไว้ได้อีกด้วย
 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินดิจิทัล พบว่าผู้กระทำความผิดมีการยักย้ายถ่ายเทเงินไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายกระเป๋า โดยมีการแลกเปลี่ยนเหรียญสกลุเงินดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลเงินต่างๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทโอนเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย
 

จากข้อมูลการสืบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ MR.STEFFEN หรือ นายสเตฟเฟน สัญชาติเยอรมัน ผู้กระทำความผิดในคดีนี้
ต่อมาในวันที่ 5 มี.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. และ บก.ปอศ. เข้าจับกุม MR.STEFFEN หรือ นายสเตฟเฟน (ผู้ต้องหา) ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่       ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์แม่ข่าย, โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์บันทึกข้อมูล, บัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, ซิมการ์ด และสิ่งของอื่นๆ รวม 36 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อิสระอยู่ที่ประเทศเยอรมัน โดยรับจ้างเขียนโปรแกรมต่างๆ จากนั้นเมื่อเกษียณ ผู้ต้องหาจึงได้เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ที่          ประเทศไทย และใช้ความรู้ความสามารถทางด้านโปรแกรมเมอร์มาสร้างเว็บไซต์จำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ตนเองเป็นผู้ดูแลจัดการดาร์กเว็บ จำนวน 2 เว็บไซต์ ซึ่งมีวิดีโอลามกอนาจารกว่า 5,000 คลิป โดยส่วนใหญ่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก มีลูกค้าเป็นสมาชิกกว่า 10,000 ราย โดยแต่ละรายจะต้องมีการชำระเงินขั้นต่ำในการเข้าชมจำนวน 10 ดอลลาร์ ซึ่งภายหลังจากที่ผู้ต้องหาได้รับเหรียญดิจิทัลสกุล Bitcoin จากลูกค้าแล้ว ผู้ต้องหาจะทำการยักย้ายถ่ายเทไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ และแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลต่างๆ ก่อนจะนำเหรียญดิจิทัลมาขายเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศไทย (จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องหามีรายได้จากการขายสื่อลามกอนาจาร ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,500,000 บาท) นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การอีกว่าในการสร้างเว็บไซต์ดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ใช้โปรแกรม Tor control panel (โปรแกรมสำหรับจัดการเว็บไซต์ในเครือข่าย tor เช่น การเชื่อมต่อเครือข่าย, การเผยแพร่ข้อมูลบนเครือข่าย) และโปรแกรม WampServer (โปรแกรมสำหรับสำหรับจัดการเว็บเซิร์ฟเวอร์ และฐานข้อมูล) ประกอบกับความรู้จากการเป็นโปรแกรมเมอร์มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์
 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของผู้ต้องหาเพิ่มเติม พบสื่อลามกอนาจารต่างๆ ในรูปแบบวิดีโอ และภาพนิ่ง จำนวนมากกว่า 140,000 ไฟล์ อีกทั้งยังพบว่า ผู้ต้องหาได้มีการขายโปรแกรม Spyware ผ่านดาร์กเว็บ (โปรแกรมลักลอบติดตั้งในอุปกรณ์โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอ์ เพื่อดักเก็บข้อมูลส่วนตัว) โดย Spyware ดังกล่าวสามารถดักเก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์, การรับสาย-โทรออก, ข้อมูลการพิมพ์, การแจ้งเตือนต่างๆ, ติดตามตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ รวมทั้งสามารถเข้าถึงข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ต่างๆ ภายในอุปกรณ์ได้ โดยมีการขายเป็นรายเดือน เดือนละ 16.95 ดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 572 บาท)

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยไปยังพ่อแม่ผู้ปกครอง ขอให้เฝ้าระวังและดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี เพื่อที่บุตรหลานของท่านจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้กระทำความผิดที่มักจะชักชวนหรือล่อลวงบุตรหลานของท่านไปเพื่อกระทำอนาจาร หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็กในรูปแบบต่างๆ
ในส่วนของผู้กระทำความผิดที่มีการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารทางออนไลน์ รวมไปถึงผู้ที่เก็บ หรือส่งต่อ สื่อลามกอนาจาร ถือเป็นการกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย






คำที่เกี่ยวข้อง : #ปอท.  









©2018 CK News. All rights reserved.