วันที่ 19 ก.พ. 2568 ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาประชุมเตรียมความพร้อมการรับตัวคนต่งชาติที่ถูกหลอกให้ไปทำงานผิดกฏหมายที่ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการประชาสัมพันธ์ตามแนวชายแดนแจ้งเตือนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ให้เดินทางมากำชับการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ ตม. ในการรับตัวคนต่างด้าวที่ถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซนเตอร์ ในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบัน ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทั้งคนไทยและคนต่างชาติให้ข้ามฝั่งไปทำงานผิดกฎหมายต่างๆ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเร่งแก้ไข ปราบปรามให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม วันนี้ตนจึงได้ประชุมเจ้าหน้าที่ ตม. ถึงแนวทางในการรับตัวคนต่างชาติที่ถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมาย ดังนี้

1. ให้เพิ่มเครื่อง Biometrics สำหรับช่องตรวจจากเดิม 6 เครื่อง เป็น 10 เครื่อง เพื่อความรวดเร็วในการลงข้อมูลโดยให้ทดสอบระบบ Biometrics พร้อมใช้งาน ( ตรวจ 1 คนใช้เวลาประมาณ 5 นาที )
2. จัดเตรียมกำลังพลและซักซ้อมการปฏิบัติ โดยใช้กำลังพลจำนวน 40 นาย หากกำลังพลไม่เพียงพอให้ บก.ตม.5 จัดกำลังพลสนับสนุน
3. จัดเตรียมแผนการปฏิบัติในการรับตัวชาวต่างชาติที่ถูกชักชวนไปทำงานผิดกฎหมาย (Standard Operating Procedure : SOP) และให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งซักซ้อมการปฏิบัติให้ชัดเจนเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ทั้งนี้ได้เพิ่มมาตรการด้านประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนไม่ให้ชาวต่างชาติถูกชักชวนไปทำงานผิดกฎหมาย โดย ให้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ติดตั้งบริเวณ ทางหลวงหมายเลข 12 ขาเข้า อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งแต่ก่อนถึงจุดตรวจบ้านห้วยหินฝนไปจนถึงบริเวณวงเวียนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และบริเวณสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมาแห่งที่ 1 และยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ให้เพิ่มประเด็นคำถามเกี่ยวกับประเภทวีซ่าและเพิ่มความเข้มในการตรวจกลุ่มเสี่ยงให้มากขึ้น ทั้งนี้ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ (แม่สอด) เพื่อใช้ในการประสานงานกับสถานทูตของประเทศต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับตัวชาวต่างชาติที่ถูกชักชวนไปทำงานผิดกฎหมาย อีกด้วย

รอง ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. เร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพชักชวนให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูง หากประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง