เวลา 23.00 น.วันที่ 13 ก.พ.2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตํารวจนครบาล ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.อํานาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ชัยพัชร์ ศรีประเสริฐ รอง ผบช.น. ร่วมกับ กองบังคับการตํารวจจราจร นําโดย พล.ต.ต.ดํารงศักดิ สว่างงาม ผบก.จร. , สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), มูลนิธิเมาไม่ขับ และกรุงเทพมหานคร เดินหน้ารณรงค์ความปลอดภัยทางถนน จัดโครงการ “เปาก่อนขับ...กลับบ้านปลอดภัย” เพือสร้างความตระหนักรู้เกียวกับผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อการขับขีและลดอุบัติเหตุ บนท้องถนน โดยได้ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์หน้าสถานบันเทิง (ร้านออนิกซ์ RCA) จากนั้นได้เดินประชาสัมพันธ์เชิงบวกภายในสถานบันเทิง

พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อลดความเสียงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรม “ดื่มไม่ ขับ” ในหมู่นักท่องเที่ยว โดยคาดหวังว่าการให้ความรู้และบริการตรวจวัดแอลกอฮอล์จะช่วยให้ ประชาชนมีทางเลือกที่ปลอดภัยในการเดินทางกลับบ้านเพื่อประโยชน์สําหรับตัวผู้ขับขีเอง และเพื่อนร่วมทาง โดยในปที่ผ่านมา กองกํากับการ 5 กองบังคับการตํารวจจราจร ได้ทําการจับกุมผู้ขับขี่ที่มี ปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกําหนดไปแล้วจํานวน 3,639 ราย โทษข้อหาเมาแล้วขับ มีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตังแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทังจําทั้งปรับ และพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และต้องบําเพ็ญประโยชน์ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจําทังปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กรณีผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี บริบูรณ์ หรือมีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว แบบ 2 ปี  ถือเป็นผู้เมาสุราไม่เป่า = เมาแล้วขับ การปฏิเสธเป่าวัดแอลกอฮอล์ มีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน และศาลสามารถสังพักใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และสามารถยึดรถไว้ไม่เกิน 7 วัน